นี่ก็พูดไปเรื่อยๆ ดูว่ามีหัวข้ออะไรที่ควรจะพูดอีกบ้าง เช่นแง่มุมต่างๆ อย่างที่ว่ามา ก็ได้เน้นแล้วในเรื่องที่ว่า การศึกษานั้นในแง่หนึ่งก็พิสูจน์หรือวัดผลด้วยความสุข ถ้าเด็กเติบโตขึ้นมาเป็นคนไม่มีความสุข ก็แสดงว่าการศึกษาที่แท้ไม่ได้เกิดขึ้น
เรื่องทั้งหมดนี้ โยงมาหาหลักการใหญ่ของพระพุทธศาสนา ที่เรียกว่า ธรรมวินัย คือ ธรรม กับ วินัย
ธรรม คือ เนื้อแท้ตัวจริงความเป็นจริงของธรรมชาติ ภาวะที่มีอยู่ตามธรรมดา หรือความจริงที่มีอยู่ตามธรรมดาของมัน พระพุทธเจ้าจะเกิดหรือไม่เกิด มันก็มีอยู่เป็นอยู่ของมันอย่างนั้น ตถาคตมาค้นพบแล้วก็เอามาบอก มาเปิดเผย มาแสดง พูดสั้นๆ ก็คือ ธรรมชาติและกฎธรรมชาติ
วินัย คือ ระบบจัดตั้งที่พระพุทธเจ้าทรงวางขึ้น เพื่อให้มนุษย์ได้ประโยชน์จากธรรมนั้น เช่น จัดตั้งชุมชนที่มีบุคคล สถานที่ กิจกรรม และกฎเกณฑ์กติกาในการสัมพันธ์กัน ที่จะช่วยให้คนในชุมชนนั้นพัฒนาชีวิตให้เกิดให้มีให้เข้าถึงธรรม
ดังเช่นกระบวนการการศึกษาของเรานี้ ที่มีการจัดตั้งเป็นกิจการของรัฐ ของสังคม เช่น มีระดับการศึกษา มีโรงเรียน มีหลักสูตร มีครูอาจารย์ มีชั้นเรียน มีตารางสอน ฯลฯ ก็คือการจัดระบบตามความสัมพันธ์ระหว่างธรรมกับวินัย
หมายความว่า ตัวแท้ตัวจริงที่เราต้องการ คือ ธรรม ได้แก่ความเจริญงอกงามของเด็กที่เป็นไปตามกระบวนความเป็นจริงของธรรมชาติ แต่จะทำอย่างไรให้กระบวนการของธรรมชาตินี้ เกิดมีผลเป็นจริงขึ้นมา ให้เป็นการพัฒนาอย่างได้ผลดี ก็อาศัยระบบการจัดตั้งของมนุษย์ที่เรียกว่า วินัย
บอกแล้วว่า ธรรม คือเนื้อแท้ที่เราต้องการ และเป็นของจริง ความจริงที่เราต้องเป็นไปตาม ถ้าใครฉลาดจัดตั้ง คือวางวินัยได้เก่ง ก็จะทำให้ดำเนินการได้อย่างเป็นไปตามความจริงที่จะให้เกิดผลตามที่ต้องการ พระพุทธเจ้าที่ทรงเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ก็เพราะทรงเก่งอย่างนี้ ถ้ามิฉะนั้น พระองค์ค้นพบธรรมอย่างเดียว ก็เป็นเพียงพระปัจเจกพุทธเจ้า
พระปัจเจกพระพุทธเจ้า ก็คือ ผู้ค้นพบธรรม แต่ไม่สามารถจัดตั้งวินัย แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ ท่านที่ทั้งค้นพบธรรม ที่เป็นความจริงของธรรมชาติ แล้วก็จัดตั้งวินัย โดยวางระบบปฏิบัติการที่จะให้มนุษย์ได้ประโยชน์จากธรรมนั้นด้วย
มาดูเรื่องการศึกษาก็เหมือนกัน การศึกษาที่เราจัดกันอยู่นี้ ก็คือระดับวินัย คือ การศึกษาที่เป็นระบบจัดตั้งนั่นเอง และที่ควรจะเน้นในเรื่องนี้ก็คือ ผู้ที่ทำงานจัดตั้ง จะต้องตระหนักชัดว่าตัวสาระแท้ที่เรียกว่าธรรม หรือตัวการศึกษาแท้ๆ หรือเนื้อแท้ของการศึกษานั้น คืออะไร เป็นอย่างไร หมายความว่า การพัฒนาของมนุษย์ตามธรรม คือกระบวนการของการศึกษาที่เป็นไปในชีวิตของคนตามธรรมชาติ มันเป็นอย่างไร ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว การศึกษาที่เป็นการจัดตั้งก็จะไม่สำเร็จ
เพราะฉะนั้น การจัดตั้งที่จะได้ผลจริง ต้องมาจากผู้ที่รู้เข้าใจเข้าถึงตัวความจริงของธรรม แล้วจึงจะทำให้เกิดผลขึ้นมาตามนั้นได้ ถ้าเราไม่หลงติดอยู่แค่ที่รูปแบบการจัดตั้ง เราก็จะไม่ลืมตัว และจะคอยสำนึกระลึกตระหนักไว้ แล้วก็คอยตรวจสอบความเข้าใจ ในเนื้อหาสาระที่เรียกว่าธรรม หรือตัวเนื้อแท้ของการศึกษานี้ไว้ การศึกษาที่เป็นระบบจัดตั้ง ก็จะเจริญงอกงามต่อไป ไม่แข็งทื่อติดตัน แต่จะปรับรูปแบบเป็นต้นได้อย่างประสานกลมกลืนที่จะให้ได้ผลตามความจริงของธรรม
อย่างในเรื่องเสรีภาพที่พูดข้างต้น ถ้าเด็กติดเกม ใช้เสรีภาพไม่เป็น ทำให้เกิดโทษต่อชีวิตของตัวเขาเอง และก่อปัญหาแก่สังคม ถ้าเราสอนเราช่วยให้เด็กนั้นมีอิสรภาพ แล้วใช้เสรีภาพเป็น เด็กก็เจริญงอกงาม มีการพัฒนาด้วยการศึกษา
ในเรื่องนี้ การศึกษาจัดตั้งเข้ามาช่วยอย่างไร นี้ก็คือ เราเอาปัจจัยภายนอกมาช่วย เพราะปัจจัยภายในของเขาเองมีกำลังไม่พอ ปัจจัยภายนอกก็คือระบบจัดตั้งที่เข้าไปสื่อไปเสริม เช่น
หนึ่ง จัดให้มีให้พบกัลยาณมิตร จัดสิ่งแวดล้อมทางสังคม ตั้งแต่พ่อ แม่ คนในครอบครัว ครู อาจารย์ เพื่อน หรืออะไรก็แล้วแต่ คือระบบกัลยาณมิตร ได้แก่มนุษย์ด้วยกัน ที่จะมาช่วยห้อมล้อม หรือมีอิทธิพลชักจูง โน้มนำไปในทางที่ดี
สอง จัดวางระเบียบแบบแผนที่จะสร้างเป็นวิถีชีวิตขึ้นมา ด้วยการกำหนดวินัย ที่เป็นรูปธรรม เช่น กฎกติกา ซึ่งควรจะเป็นไปด้วยความตกลงยอมรับร่วมกัน เช่นชี้แจงอธิบายเข้าใจเหตุผล เห็นประโยชน์แล้ว ว่ากฎกติกานั้นจะมาช่วยให้เขาถอนตัวจากสิ่งที่เขารู้ว่ามีโทษแต่เขาติดอยู่นั้นได้สำเร็จ
พึงสั