สถานการณ์พระพุทธศาสนา: พลิกหายนะเป็นพัฒนา

Somdet Phra Buddhaghosacariya (P. A. Payutto)

มองพระสงฆ์ให้เป็น
ก็เห็นสภาพสังคมไทย

ที่ว่ามานี้ก็เป็นเรื่องที่เราได้ยินได้ฟัง และบางท่านได้วิพากษ์วิจารณ์กัน แต่ข้อสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การวางท่าทีต่อความเป็นไปเหล่านี้ พร้อมทั้งในฐานะที่เป็นครูอาจารย์ สิ่งสำคัญก็คือ การสอนให้นักเรียนหรือคนที่เราเกี่ยวข้อง รู้จักวางท่าทีที่ถูกต้อง

ท่าทีอย่างไร เป็นท่าทีที่ถูกต้อง แง่ที่หนึ่ง คือการใช้ปัญญา รู้จักพิจารณา และมีความรู้เท่าทันต่อเรื่องราวความเป็นไปที่เกิดขึ้น แล้วก็มองให้ได้ประโยชน์

ไม่ใช่มองแต่เพียงว่า เป็นข่าวตื่นเต้น แล้วก็ร้องทุกข์ โอดครวญ หรือได้แต่วิพากษ์วิจารณ์ แล้วก็มีความรู้สึกไม่ดีเกิดขึ้นในทำนองว่า พระสงฆ์ทำไมเสื่อมโทรมอย่างนี้ ไม่น่านับถือ เลิกนับถือดีกว่า

บางทีไม่นับถือพระสงฆ์ แล้วพาลจะไม่นับถือพระพุทธศาสนาอีกด้วย อันนี้เป็นเรื่องที่อันตราย ซึ่งเกิดจากการวางท่าทีไม่ถูกต้อง และขาดปัญญา

ประการที่หนึ่ง มองโดยภาพรวมก่อน ในแง่ที่ข่าวเหล่านี้เป็นเรื่องของความเป็นไปในสังคมไทย

ถ้ามองในแง่นี้ ข่าวคราวเหล่านี้ นอกจากเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงสภาพความเสื่อมโทรมในวงการพระศาสนา หรือในหมู่พระสงฆ์แล้ว ในฐานะที่พระสงฆ์นั้นเป็นสถาบันที่สำคัญในสังคมไทย มันก็เป็นเครื่องชี้บ่งถึงสภาพความเป็นไปของสังคมไทยด้วย

เราถือกันว่า พระสงฆ์เป็นสถาบันทางจริยธรรม เป็นสถาบันของผู้นำทางด้านจิตใจของสังคมนี้ เราอาจพูดได้ว่า โดยทั่วไปในสังคมไทยนี้ พระสงฆ์เป็นบุคคลที่ถือได้ว่ามีศีลธรรมและจริยธรรมมากที่สุด

จากเกณฑ์มาตรฐาน หรือพื้นความเข้าใจอย่างนี้ เมื่อเรามองสังคมไทย ก็จะได้ข้อคิดต่อไปว่า อ้อนี่ ขนาดบุคคลที่ถือว่าเป็นแบบอย่างทางศีลธรรม และเป็นผู้นำทางจิตใจของสังคมไทย ก็ยังมีความเสื่อมโทรมขนาดนี้ แล้วสังคมไทยส่วนรวมทั่วๆ ไป จะเลวทรามขนาดไหน

ถ้ามองในแง่นี้ เราก็จะได้ข้อเตือนใจให้ระลึกว่า ถ้าหากว่าพระสงฆ์ของเราเสื่อมขนาดนี้แล้ว สังคมไทยส่วนรวมจะยิ่งเสื่อมโทรมกว่านั้นอีกมากมาย

แล้วขอให้ท่านพิจารณาดูสภาพทั่วไปของสังคมของเราว่า คำที่ว่านี้จริงหรือไม่

ฉะนั้น เราจะต้องวางท่าทีที่ถือว่า สภาพของคณะสงฆ์นี้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงสภาพของสังคมไทย ซึ่งเตือนให้เรารีบตื่นตัวขึ้นมา แล้วแก้ไขปรับปรุงสังคม

เมื่อได้เห็นได้ยินข่าวเสียหายเหล่านี้ในวงการพระสงฆ์ เราจะต้องรู้ตระหนักว่า มันไม่ใช่ปัญหาเฉพาะของพระสงฆ์เท่านั้น แต่นี่คือปัญหาของสังคมไทยทั้งหมด ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนภัยให้รู้ว่า เวลานี้ แม้แต่ส่วนที่ละเอียดอ่อนที่สุด ส่วนที่ถือว่าดีที่สุดของเรา ยังเลวทรามขนาดนี้ แล้วสังคมไทยส่วนรวมจะเลวทรามเสื่อมโทรมขนาดไหนแล้ว เราจะนิ่งนอนใจอยู่ไม่ได้ จะต้องรีบลุกขึ้นมาช่วยกันปรับปรุงแก้ไข

แล้วอันนี้ก็จะเป็นสำนึกที่เป็นประโยชน์ ช่วยนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ไม่ใช่เป็นเพียงการมาต่อว่าด่าทอหรือปรับทุกข์กันแล้วก็จบไป ไม่ได้อะไรขึ้นมา

ถ้าเราคิดพิจารณาโดยใช้ปัญญาอย่างนี้ ก็จะเป็นประโยชน์โดยเห็นทางที่จะใช้สถานการณ์เหล่านี้ให้เกิดคุณค่าขึ้นมา คือทำให้มีการแก้ไขปรับปรุงพัฒนาสังคมโดยส่วนรวม รวมทั้งการแก้ไขปรับปรุงการพระศาสนาด้วย

The content of this site, apart from dhamma books and audio files, has not been approved by Somdet Phra Buddhaghosacariya.  Such content purpose is only to provide conveniece in searching for relevant dhamma.  Please make sure that you revisit and cross check with original documents or audio files before using it as a source of reference.