อย่างที่ว่าแล้ว เรื่องนี้ก็สัมพันธ์กับคุณภาพของคนสอนด้วย คนสอนสมัยนี้มีความสามารถอย่างพระพุทธเจ้าไหม ก็ตอบได้ว่าไม่ แล้วท่านจะสอนพรวดเดียวสำเร็จเลยหรือ หรือถ้าท่านทำได้ ผู้สอนอื่นๆ ทำได้หรือ
ไม่ควรเอาแต่ใจตนเองผู้เดียวมาเป็นมาตรฐาน ต้องให้แนวทางแก่ส่วนรวมด้วย ขอให้มีหลักกลางที่ชัดเจน
เพราะฉะนั้น เราต้องรู้หลัก และรู้กำลังของเรา จับหลักให้ถูก ถ้าท่านจะใช้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพระพุทธศาสนา ท่านต้องใช้ด้วยความเข้าใจในหลักนี้ และจับหลักไว้ให้มั่น แล้วใช้วิธีนำทางที่เหมาะกับกำลังของตน อย่าไปหวังผลลาภสักการะ หรือผลประโยชน์ส่วนตน
ถ้าไม่หวังผลประโยชน์ส่วนตน ไม่หวังลาภสักการะแล้ว ก็ไม่เป็นไร สบายใจไปครึ่งค่อนแล้ว ขออีกอย่างหนึ่งคือ ให้มีปัญญาเข้าใจในหลัก แล้วก็มีสติระลึกไว้ว่าเราจะเอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นอุปกรณ์ในวิถีของการพัฒนา ที่จะชักจูงประชาชนขึ้นไปในวิถีของการฝึกอบรมตนให้เขามีการศึกษาที่ดีขึ้น
เอาละ อันนี้เป็นเรื่องของการที่ต้องรู้หลักการให้ชัดเจน คือหลักพระพุทธศาสนา ที่ว่า เชื่อในหลักกรรม และปฏิบัติในการพัฒนาตน ให้เดินไปในวิถีของการพัฒนาตน หรือสิกขา หรือการศึกษา
แล้วก็ถือคุณธรรมเป็นหลักของความศักดิ์สิทธิ์ ให้คนหวังผลจากการกระทำ ถ้าจะมีความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ต้องให้มาเสริมการกระทำ อย่ายกชะตากรรมของตนให้แก่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น
เพราะฉะนั้น ในสภาพปัจจุบันที่ทำกันอยู่ จึงน่าเป็นห่วง เพราะทำโดยไม่รู้หลักเลย เมื่อไม่รู้หลัก ก็เสียหลัก หรือซ้ำร้ายทำโดยตั้งใจให้ผิดหลักด้วย
หนึ่ง คือ มีการชักจูงล่อเร้าให้เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันมาก ที่ร้ายที่สุดก็คือ การกระทำโดยหวังลาภสักการะ หวังผลประโยชน์ แล้วเลยมอมเมาให้เขาลุ่มหลงหนักยิ่งขึ้น
สอง คือ ทำแบบนอกศาสนา ให้คนยกชะตากรรมให้แก่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาล หวังผลลอยๆ จากการดลบันดาลหรือฤทธิ์อำนาจเหล่านั้น ที่อยู่นอกตัว
สาม คือ แทนที่จะดึงเข้าสู่พระศาสนายิ่งขึ้น กลับดึงให้หลุดออกไปจากพระพุทธศาสนา จากพระรัตนตรัยออกไปหาพระพรหม เทพเจ้า และสิ่งลึกลับต่างๆ