เริ่มวิวัฒน์ที่กลางวิกฤติ

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต)

ปรับแก้การดำเนินชีวิตของคนไทยเสียใหม่
ก็จะแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน
กลมกลืนกันทั้งระยะสั้นและระยะยาว

การแก้ปัญหาระยะยาวนั้นทำอย่างไร? คนเราที่เป็นอยู่นี้ต้องดำเนินชีวิตอยู่เสมอ การดำเนินชีวิตนี้เป็นของอยู่กับตัวของทุกคน จากการดำเนินชีวิตของแต่ละคนก็มาประกอบกันขึ้นเป็นสังคม เมื่อแต่ละคนดำเนินชีวิตอย่างไร ก็จะเกิดผลรวมเป็นวิถีชีวิตของสังคมอย่างนั้น จึงกลายเป็นวัฒนธรรมเป็นต้น วิถีชีวิตของสังคมหรือวัฒนธรรมที่เกิดจากการดำเนินชีวิตของคนนี้คงอยู่ยาวนาน จึงเป็นเรื่องของการแก้ปัญหาระยะยาวด้วย แต่พร้อมกันนั้นมันก็เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นเพราะมันก็คือการดำเนินชีวิตเฉพาะหน้าเดี๋ยวนี้นั่นเอง เพราะฉะนั้น เราจึงเชื่อมระหว่างการแก้ปัญหาระยะสั้นกับการแก้ปัญหาระยะยาวด้วยตัวต่อสำคัญคือตัวคนที่ดำเนินชีวิตอยู่นี้แหละ

ถ้าดูกันไป เวลานี้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสังคมของเรา เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการดำเนินชีวิตที่ผิดหรือไม่ ถ้าเราบอกว่าแต่ก่อนนี้เราฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยเป็นต้น เราเป็นบริโภคนิยม เห็นแก่การบริโภคมากเกินไป นั่นก็คือความเป็นอยู่หรือการดำเนินชีวิตที่ผิดพลาด และก็หมายความว่า เรากำลังมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการดำเนินชีวิตที่ผิดพลาดนั้น เมื่อเป็นอย่างนี้ ในการแก้ปัญหาจากการดำเนินชีวิตที่ผิดพลาดนั้น การแก้ไขที่ดีที่สุดก็คือ การดำเนินชีวิตเสียใหม่ให้ถูก

ไม่ว่าเราจะแก้ปัญหากันอย่างไรก็ตาม ถ้าไม่แก้ที่การดำเนินชีวิต ก็ไม่มีทางสำเร็จแน่นอน จะแก้ได้ก็เฉพาะหน้าชั่วคราวเท่านั้น ไม่ว่าจะแก้เรื่องของทรัสต์ เรื่องของธนาคาร หรืออะไรก็แล้วแต่ ก็ล้วนเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ตราบใดที่คนยังดำเนินชีวิตผิดพลาดก็ไม่มีทางสำเร็จ ถึงแก้ได้ในตอนนี้ ในที่สุดมันก็ต้องย้อนกลับมาเป็นวงจร สังคมก็ต้องเกิดปัญหาอย่างเดิม เพราะฉะนั้น จะต้องแก้ปัญหาด้วยการดำเนินชีวิตที่ไม่ก่อปัญหา โดยเปลี่ยนให้กลายเป็นการดำเนินชีวิตชนิดที่เป็นการสร้างสรรค์ความเจริญ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด เมื่อดำเนินชีวิตถูกต้องมันก็เจริญเรื่อยไป และนี่คือจุดรากฐานที่ใช้ได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งมาจากแต่ละบุคคลนี่เอง แล้วก็มาเป็นวิถีชีวิตของสังคม

การดำเนินชีวิตที่ผิดพลาดก็อย่างที่เห็นง่ายๆ ได้แก่การไม่รู้จักประหยัด การตกอยู่ในความประมาท การเป็นอยู่อย่างฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย อย่างที่มองเห็นง่ายๆ แต่อีกด้านหนึ่งมองให้ลึกลงไป จับให้เห็นจุดที่จะแก้ปัญหาให้ตรงก็คือ การดำเนินชีวิตที่เป็นปัญหานั้นอยู่ที่การที่เป็นแต่นักบริโภค ซึ่งมองด้านตรงข้ามก็คือไม่เป็นนักผลิตนั่นเอง สังคมไทยที่ว่าเป็นคนฟุ้งเฟ้อ เป็นนักบริโภค พร้อมกันนั้นก็คือไม่เป็นนักผลิต ถ้าเราเป็นนักผลิตเราก็ตัดทอนความฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยและความเป็นนักบริโภคลงไปได้ นี่ก็คือจะต้องดำเนินชีวิตแบบนักผลิตและเป็นนักสร้างสรรค์ให้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการประหยัด ทำให้ไม่เป็นผู้เห็นแก่บริโภคเป็นต้น อันนี้เป็นเรื่องสำคัญซึ่งคิดว่าจะไม่ต้องแจงรายละเอียด เอาเป็นหลักการว่า การแก้ปัญหาขั้นพื้นฐานที่สุดเพื่อผลระยะยาวก็คือการแก้ไขปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตของคนไทย

ขอย้ำอีกทีว่า จะต้องแก้ปัญหาด้วยการดำเนินชีวิตชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหา โดยก้าวไปสู่การเป็นนักผลิตและเป็นนักสร้างสรรค์ ถ้าเราดำเนินชีวิตถูกต้องแล้วก็เป็นการแก้ปัญหาไปในตัวของมันเอง

เนื้อหาในเว็บไซต์นอกเหนือจากไฟล์หนังสือและไฟล์เสียงธรรมบรรยาย เป็นข้อมูลที่รวบรวมขึ้นใหม่เพื่อช่วยในการศึกษาค้นคว้าของผู้สนใจ โดยมิได้ผ่านการตรวจทานจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
ผู้ใช้พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือหรือเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง