เป็นอันว่า เรื่องชีวิตสมรสหรือการแต่งงานนี้ เราไม่มองแค่เพียงว่าเป็นการที่ได้มาสนองความใฝ่ปรารถนาความสุขของตนเอง แต่ต้องมองในแง่ของการที่ได้มาร่วมกันทำการสร้างสรรค์ความเจริญงอกงามอย่างใดอย่างหนึ่ง
เช่นมองว่า เรามาช่วยกันสร้างสรรค์ชีวิตที่อยู่ร่วมกันนี้ให้เกิดความเจริญงอกงามมั่นคงยิ่งขึ้นไป หรือมองแม้กระทั่งว่า เรามีจุดหมายที่ดีงามของชีวิต เรามีจุดหมายเพื่อสังคม การแต่งงานก็เท่ากับว่าได้กำลังมาเพิ่มเป็นสองคน
แต่ก่อนนั้น เราทำคนเดียว เรามีกำลังน้อย ก็ทำได้จำกัด พอเรามีสองคน เรารวมแรงรวมกำลังกัน ก็ทำได้มากขึ้น
ถ้าอย่างนี้ ก็เรียกว่า การแต่งงานนั้นเป็นการรวมกำลังมาทำการสร้างสรรค์ แล้วก็ก้าวหน้าไปสู่จุดหมายที่จะทำต่อไป
อีกอย่างหนึ่ง การแต่งงานนี้ เป็นโอกาสในการพัฒนาชีวิตของตนเองด้วย หมายความว่า คนเราแต่ละคนนี้ มีหน้าที่ต้องทำชีวิตของตนให้ดีงามยิ่งขึ้น ในการที่จะอยู่ในโลกให้ประสบความสำเร็จ พฤติกรรมกายวาจาของเราก็ต้องพัฒนา จิตใจของเรา เช่น ความเพียร ความอดทน ความรับผิดชอบ ความมีสติ ความมีสมาธิ ความเข้มแข็งต่างๆ เหล่านี้ก็ต้องพัฒนา และปัญญา ความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการคิดพิจารณา วิเคราะห์ แยกแยะ เป็นต้น ก็ต้องพัฒนา
การมามีชีวิตแต่งงาน และได้รับผิดชอบครอบครัว โดยรับผิดชอบตั้งแต่ชีวิตของตนเอง และร่วมกันสร้างสรรค์ต่างๆ นี้ ก็เป็นโอกาสที่เราจะได้พัฒนาคุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมด
ถ้าเรามองชีวิตแต่งงานอย่างนี้ ก็จะมีความหมายมากขึ้น คือไม่ใช่มองแค่ว่าเราจะได้มีความสุขสมปรารถนาของตนหรืออะไรทำนองนั้น ถ้าเรามองจำกัดแค่นั้นก็จะเป็นปัญหา