ปัญญาเป็นเรื่องของความรู้เข้าใจที่ชัดเจน สังคมไทยเราก็ต้องการความรู้ และเราก็บอกกันว่าเรากำลังสร้างปัญญากัน แต่มีอันหนึ่งที่น่าสังเกต คือความไม่ชัด เรารู้ไม่ชัด ไม่ว่าเรื่องอะไรๆ ก็เต็มไปด้วยความไม่ชัด และรู้ไม่ชัด อะไรไปมาเป็นมาอย่างไรก็ไม่ชัด แม้แต่จะไปชื่นชมนิยมอะไรก็ไม่รู้จักมันชัด
อย่างที่เดี๋ยวนี้ไปนิยมชมชอบอเมริกา คนไทยก็ไม่รู้จักอเมริกาชัดเจน ทำตามเขาไปอย่างฉาบฉวยผิวเผิน ที่ว่าฉาบฉวยผิวเผินนั้น ถ้าพูดอีกภาษาหนึ่ง ก็คือไปเอาแค่เปลือก ฉาบฉวยผิวเผินก็คือเปลือก แล้วพอดูกันจริงๆ แม้แต่เปลือกของเขาเราก็ดูไม่ทั่ว แม้แต่เปลือกของเขาก็เห็นไม่ทั่วไม่ตลอด ไม่รอบด้าน ต้องย้ำว่าแม้แต่เปลือกก็ยังรู้จักเขาไม่จริงเลย ไปเห็นเปลือกบางส่วนแล้วก็ว่าตามๆ ไปอย่างนั้นเอง
การที่จะรู้ชัด เราจะต้องไม่รู้แค่เปลือก นอกจากมองเห็นเปลือกทั่วแล้ว ต้องรู้เนื้อในด้วย พอปอกเปลือกดูเนื้อในแล้วก็ลงไปถึงแก่นถึงแกน และลงไปถึงรากถึงฐาน ถึงเหตุปัจจัยที่สร้างสรรค์สังคมของเขามา
สังคมอเมริกันมีรากฐาน มีความเป็นมา มีภูมิหลัง มีเหตุปัจจัยอย่างไร เรื่องนี้พอถามกันขึ้นมาเราก็ไม่ค่อยจะรู้ และเมื่อว่าไปถึงเหตุปัจจัย ภูมิหลัง และรากฐานนั้น มันก็มีหลายด้าน เช่น ในด้านพลัง หรือกำลังด้านต่างๆ ก็มีทั้งกำลังทางเศรษฐกิจ ทางสังคม ทางการเมือง เป็นต้น ทุกด้านเป็นอย่างไรจะต้องรู้ แล้วก็ลงไปถึงเรื่องของสภาพจิตใจ ตลอดจนความต้องการ
เราควรศึกษาให้รู้เข้าใจว่า ความต้องการของสังคมอเมริกันเป็นอย่างไร ให้เห็นตลอดลงไปจนกระทั่งถึงแนวคิดความเชื่อว่า สังคมอเมริกันเจริญขึ้นมาโดยมีฐานทางความคิด มีแนวคิดความเชื่ออย่างไร อันไหนเป็นตัวกำกับ หรือเป็นตัวกำหนดสังคมของเขา ถ้าเราจะนิยมตามเขา ก็ต้องรู้เข้าใจเขา ถ้าเขาผิด เราก็ต้องแก้ไข ถ้าแก้ไขเขาไม่ได้ ก็ไม่ตามเขา แต่แก้ไขตัวเรานั่นแหละ ถ้าแก้ไขได้ก็คือการแก้ปัญหาร่วมกันของทั้งโลก ซึ่งในระยะยาวจะต้องพยายามแก้ไขให้ได้