ปัญญาที่แท้นั้นเมื่อพัฒนาไปก็จะพ่วงเอาคุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งคู่มาด้วย ถ้าคุณสมบัตินี้ไม่มาก็แก้ปัญหามนุษย์ไม่ได้ และไม่ใช่ปัญญาที่แท้จริง ปัญญาแท้ที่เข้าถึงสัจธรรมนั้น ทำให้มนุษย์รู้ความจริงของสิ่งทั้งหลาย ทั้งของโลก และของชีวิต ซึ่งรวมทั้งรู้เข้าใจตัวเองและรู้เข้าใจเพื่อนมนุษย์ด้วย
พอรู้เข้าใจความจริงของชีวิตของตน ก็เกิดมีอิสรภาพ ตนเองหลุดพ้นจากพันธนาการ และไม่มีอะไรจะต้องทำเพื่อตนต่อไป อีกทั้งเข้าใจชีวิตของเพื่อนมนุษย์ ของเพื่อนร่วมโลก ของสัตว์ทั้งหลาย ทำให้เกิดสภาพจิตขึ้นมาอย่างหนึ่ง เป็นคุณธรรม เรียกว่า กรุณา คือความไวที่จะมองเห็นความทุกข์และปัญหาของเพื่อนมนุษย์ และปรารถนาที่จะไปช่วยแก้ไขปัญหาบำบัดปัดเป่าความทุกข์นั้น
เพราะฉะนั้น ปัญญา จึงคู่กับกรุณา โดยเฉพาะท่านผู้ตรัสรู้แล้วซึ่งมีปัญญาที่แท้ กรุณาก็จะเกิดเองโดยอัตโนมัติ เพราะเมื่อมีความเข้าใจโลกและชีวิตแท้จริง ไม่ใช่เข้าใจแต่เรื่องราว แต่เข้าใจมนุษย์ด้วย พอเรารู้ความจริงในชีวิตของเขาและเข้าใจคนแล้ว เราก็จะเห็นใจคน ซึ่งทำให้ปฏิบัติต่อคนถูกต้อง เรียกว่าเกิดกรุณา ฉะนั้น ปัญญาจึงมาคู่กับกรุณา ปัญญาที่แท้ต้องมากับกรุณา
แม้แต่ในเรื่องข่าวสารข้อมูล เมื่อเราปฏิบัติได้ถูกต้อง เรามีข่าวสารข้อมูลมาก เราก็เข้าใจเรื่องราวได้ดี พร้อมกันนั้นอีกด้านหนึ่ง เราใช้ข้อมูลนี้ในการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนมนุษย์ การติดต่อสื่อสารกันนี้ก็ทำให้เกิดความเข้าใจเพื่อนมนุษย์ ดังนั้นการใช้ข่าวสารจึงหมายถึงการสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ให้ถูกด้วย ถ้าปัญญามากับกรุณา ก็จะทำให้เกิดผลดี ไม่ใช่เป็นการใช้ข่าวสารเพียงเพื่อสนองผลประโยชน์ของตัวเอง แล้วเกิดความขัดแย้งหรือทำลายเพื่อนมนุษย์ แต่จะใช้ข่าวสารข้อมูลให้เกิดการเกื้อกูลกัน แต่ในทางตรงข้าม ถ้าปฏิบัติไม่ถูกต้อง ปัญญาไม่มากับกรุณา ก็จะต้องเกิดปัญหาแน่นอน