คนเราอยู่ในโลกนั้น หลายคนอาจจะประสบความสำเร็จ มีชัยชนะทุกอย่างทุกประการ แต่ในที่สุดมาแพ้อะไร ก็แพ้อารมณ์ในใจของตนเอง
แม้จะเป็นราชา เป็นจักรพรรดิ เป็นผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ หรือเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี มีทรัพย์มหาศาล ชนะมาทั่ว ประสบความสำเร็จมาทั่ว แต่มาแพ้อารมณ์ในใจของตัวเอง ไม่รู้จะเอาชนะอย่างไร เพราะฉะนั้น ชัยชนะในใจของเรานี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะเป็นความสำเร็จ ซึ่งจะทำให้มีความสุขได้อย่างแท้จริง
ทำอย่างไรเราจึงจะมีชัยชนะที่แท้จริง คือชนะทั้งภายในและภายนอก ชัยชนะที่แท้ ที่จะไม่ก่อให้เกิดเวรภัย ไม่ก่อให้เกิดการเบียดเบียน ก็คือชัยชนะภายใน ด้วยการชนะอารมณ์ในใจของตัวเอง หรือชนะใจของตัวเอง ทำจิตใจให้ไม่หวั่นไหวได้
ลองพิสูจน์ตนเองอยู่เสมอ ด้วยอารมณ์ต่างๆ ที่เข้ามากระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี่แหละ
เมื่อมันเข้ามาแล้ว เราถูกมันกระทบ ถ้าใจเราไม่หวั่นไหว เรารู้เข้าใจเท่าทันมันแล้ว รักษาใจของเราให้ผ่องใสเบิกบานสดชื่นได้เสมอ อันนี้คือชัยชนะที่สำคัญ เป็นชัยชนะอันสูงสุด
พุทธศาสนิกชนรู้หลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดังกล่าวมานี้แล้ว พึงพยายามสร้างทรัพย์ภายในให้เกิดขึ้น
เมื่อตนเองประสบความสำเร็จในการสร้างทรัพย์ ยศ ตำแหน่งฐานะภายนอกแล้ว ก็ไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น ไม่ลุ่มหลงมัวเมา แต่ใช้ทรัพย์ภายนอกนั้นเป็นปัจจัยเกื้อหนุนในการที่จะพัฒนาสร้างสรรค์ทรัพย์ภายใน ให้เกิดคุณธรรม ความดี และปัญญาความรู้ขึ้นมา
เมื่อนั้น ก็จะมีทรัพย์สมบูรณ์ทั้งภายนอกและภายใน จะเป็นชีวิตที่สมบูรณ์ จะมีความสำเร็จทั้งภายนอกและภายใน มีชัยชนะอันสูงสุด ดังที่อาตมภาพได้กล่าวมา
วันนี้ ท่านสาธุชนทั้งหลาย มีโยมคณะท่านเจ้าภาพ เป็นต้น เป็นประธาน ได้มาน้อมรำลึกถึงท่านผู้ล่วงลับ ผู้มีพระคุณและเป็นที่เคารพนับถือ คือคุณโยมน้ำทอง และคุณโยมเอิบสิริ คุณวิศาล ว่าท่านจากเราไปแล้ว
ชีวิตของท่านนั้น มีอะไรให้เป็นแบบอย่างหลายประการ เพราะว่าท่านมีอายุอยู่ยืนยาวนานมาก และชีวิตของท่านก็ได้ผ่านมา ทั้งโลกธรรมฝ่ายร้าย และฝ่ายดี
การที่ท่านได้สามารถเอาชนะลุล่วงโลกธรรมฝ่ายร้ายมาแล้ว ประคับประคองตนจนกระทั่งสร้างฐานะให้มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ และนอกจากนั้น เมื่อประสบความสำเร็จแล้ว ยังใช้จ่ายทรัพย์ในการบำเพ็ญประโยชน์ดังกล่าวมา ก็ต้องนับว่า ท่านมีทั้งทรัพย์ภายนอก ทั้งทรัพย์ภายใน
เพราะฉะนั้น อย่างน้อยท่านก็เป็นตัวอย่างแก่ผู้ที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน เป็นเครื่องเตือนใจเราให้ระลึกถึงคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันสอนให้สร้างสรรค์ทรัพย์ ทั้งภายนอกและภายใน ทั้งทรัพย์ที่เป็นวัตถุและทั้งอริยทรัพย์ให้เกิดมีขึ้น แล้วชีวิตก็จะมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นไป
บัดนี้ อาตมภาพขออนุโมทนาในบุญกุศล ทั้งฝ่ายของท่านเจ้าภาพ และโยมผู้ล่วงลับไปแล้ว
ในฝ่ายของท่านผู้ล่วงลับ ก็ขออนุโมทนาในกุศลความดีงามต่างๆ ที่ท่านได้บำเพ็ญไว้ โดยเฉพาะคือการที่ท่านได้สละทรัพย์บำเพ็ญประโยชน์เกื้อกูลแก่สาธารณะ อันได้แก่เรื่องของโรงพยาบาล เรื่องการศึกษา และเรื่องของกิจการสังคมสงเคราะห์ ดังได้กล่าวแล้ว
พร้อมนี้ ขออนุโมทนาต่อท่านผู้ยังมีชีวิตอยู่ ที่มีความกตัญญูกตเวที ประกอบด้วยญาติธรรม มาน้อมรำลึกถึงท่านผู้มีพระคุณ ท่านผู้ใหญ่ที่ล่วงลับไปแล้ว และได้ขวนขวายในการที่จะบำเพ็ญกุศลอุทิศแก่ท่าน
เมื่อได้ทำหน้าที่ของตนเช่นนี้แล้ว ก็พึงมีความสบายใจว่า กิจที่พึงทำ เราได้ทำแล้ว
เมื่อสบายใจเช่นนี้ ก็จะทำให้จิตใจปลอดโปร่ง ผ่องใส มีความสงบได้ และเมื่อได้ทำบุญกุศลแล้ว จิตใจก็มีความชื่นบาน จิตใจที่ชื่นบานผ่องใส มีความอิ่มใจในบุญ ในความดีที่บำเพ็ญในการทำสิ่งที่ถูกต้องนี้ ก็เป็นทุนส่วนที่จะน้อมอุทิศให้แก่ท่านผู้ล่วงลับ
เพราะฉะนั้น ในโอกาสนี้ อาตมภาพขอเชิญชวนคุณโยมเจ้าภาพ พร้อมทั้งญาติมิตรทั้งหลาย ได้น้อมใจอุทิศส่วนกุศลที่ได้บำเพ็ญมา ให้แก่ คุณโยมน้ำทอง และคุณโยมเอิบสิริ คุณวิศาล ขอให้ท่าน เมื่อได้ล่วงรู้ถึงการบำเพ็ญกุศลของลูกหลานและน้อง เป็นต้นแล้ว จงได้อนุโมทนาให้สำเร็จเป็นวิปากสมบัติในภพนั้นๆ สืบต่อไป และขอให้ท่านเจ้าภาพทั้งหลายทั้งปวง จงเป็นผู้เจริญด้วยจตุรพิธพรชัย มีความร่มเย็นงอกงามในพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยทั่วกัน
วิสัชนาพระธรรมเทศนา พอสมควรแก่เวลา ยุติลงแต่เพียงนี้ เอวัง ก็มี ด้วยประการฉะนี้