ถึงตอนนี้ แม้จะพอแล้ว แต่ขอแถมพระพุทธดำรัสที่ตรัสสอนพระสงฆ์ไว้ สำหรับศึกษาเป็นคติในการพัฒนาชีวิตต่อไป
พระองค์ตรัสเป็นคาถา แปลมาพอให้ฟังกันได้ความ ดังนี้1
เธอทั้งหลาย ผู้ที่ตื่นอยู่ จงสดับ ผู้ที่หลับอยู่ ก็จงตื่น ตื่นดีกว่าหลับ เพราะว่าภัยไม่มีแก่ผู้ตื่น (=ผู้ไม่ประมาท)
ผู้ใดตื่นอยู่ มีสติ มีสัมปชัญญะ มีใจมั่นเป็นสมาธิ เบิกบาน ผ่องใส หมั่นไตร่ตรองพิจารณาธรรมให้ถ่องแท้ถูกชัด ตามกาลโอกาส ผู้นั้นมีใจแน่วเป็นหนึ่งเดียวแล้ว พึงกำจัดเสียได้ซึ่งความมืดมนแห่งอวิชชา
เพราะเหตุนั้นแล ภิกษุพึงอยู่กับธรรมที่จะนำใจให้ตื่น เธอมีความเพียร มีปัญญาครองตน เป็นผู้ที่ได้ฌาน ตัดกิเลสที่ผูกรัดตัวไว้กับความเกิดแก่ได้แล้ว จะได้สัมผัสสัมโพธิอันยอดเยี่ยม ในอัตภาพนี้เลยทีเดียว
แล้วก็ขอจบลงด้วยคาถาแห่งความปราโมทย์ ที่ตรัสว่า
ปาโมชฺชพหุลา โหถ เขม ปตฺเถถ ภิกฺขโว2
ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอ จงเป็นผู้มากด้วยความเบิกบานสดใส พึงปรารถนาความเกษมเถิด ดังนี้แล