จะสุขแท้ต้องเป็นไท : ต้องสุขเองได้ จึงจะช่วยโลกให้เป็นสุข

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต)

ทำกรรมอย่างฉลาด คือความสามารถของมนุษย์

ความหมุนเวียนไปของโลกและพิภพของมนุษย์ในกรรมนิยาม คู่เคียงกันไปกับความหมุนเวียนของโลกและจักรภพในอุตุนิยาม แดนมนุษย์นั้นเป็นแดนของกรรม กรรมเป็นส่วนที่มนุษย์ทำได้ เป็นเหตุปัจจัยในแดนของมนุษย์โดยมีมนุษย์เป็นเจ้าของเรื่อง

อย่างไรก็ตาม เหตุปัจจัยในโลกนี้ไม่ใช่มีแต่กรรม ไม่ใช่ทุกอย่างอะไรๆ ก็เป็นเพราะกรรมทั้งนั้น ไม่ใช่อย่างนั้น เช่นอย่างการที่เราเกิดมาแล้วต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย อันนี้ก็ไม่ใช่เป็นเพราะกรรม หรือการที่เราทุกคนเกิดมาแล้ว จะต้องพลัดพรากจากกัน อันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องของกรรม แต่เป็นเรื่องของกฎธรรมชาติอีกกฎหนึ่งที่ว่า สิ่งทั้งหลายเป็นไปตามคติธรรมดา มีการเกิดขึ้นแล้วก็แตกดับสลายไป แต่เราจะแก่ช้าแก่เร็วอาจเป็นเพราะกรรมได้ หรือว่าโรคบางโรคอาจจะเป็นเพราะกรรมก็ได้ หรือว่าเราเจ็บไข้ป่วยไปแล้ว จะปฏิบัติตัวทำใจต่อความเจ็บไข้อย่างไร อันนี้ก็เป็นกรรมของเรา

บางคนเจ็บไข้นิดหน่อยก็มีความทุกข์มหาศาล บางคนเจ็บไข้มากมายก็ไม่มีความทุกข์เดือดร้อนอะไร แถมยังสามารถหาความสุขในยามเจ็บไข้ได้ด้วย อันนี้ก็เป็นเรื่องของกรรมของเขา หรือแม้แต่ในเรื่องของความตายก็เช่นเดียวกัน การตายนั้นไม่ใช่กฎแห่งกรรม แต่จะตายอย่างไรบางทีก็ขึ้นต่อกรรม

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องที่จะต้องเข้าใจแยกให้ถูกว่า สิ่งทั้งหลายนั้นไม่ใช่เป็นไปเพราะกรรมอย่างเดียว กฎธรรมชาตินั้นมีความกว้างขวาง มีหลายกฏ แต่กฏที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ทั้งหมดยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือกฎแห่งกรรม เพราะเป็นแดนของมนุษย์ เป็นเรื่องของมนุษย์เอง เป็นส่วนที่มนุษย์สามารถลิขิตได้เพราะมนุษย์เป็นผู้ทำกรรมเอง เรียกว่าเป็นแดนของมนุษย์ที่มนุษย์จะต้องเกี่ยวข้องมากที่สุด ทั้งในแง่เป็นผู้ทำและเป็นผู้รับผลของมัน

เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงตรัสสอนให้เราปฏิบัติในเรื่องกรรมให้ถูกต้อง ถ้าเรารู้ว่าเรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทของกรรมแล้ว เราก็จะมีความระมัดระวังในการทำกรรม ให้เป็นการทำกรรมที่ดี อย่างในข้อที่กล่าวมาว่ามีความรู้เข้าใจธรรมชาติอย่างถูกต้องแล้ว มันก็กลายเป็นการทำกรรมดีไปในตัว คือการที่เรามีแนวความคิดที่ถูกต้อง เราก็มีเจตจำนงถูกทาง เราก็คิดที่จะพัฒนาชีวิตของเราให้มีอิสรภาพมากขึ้น มีความสุขที่เป็นไทแก่ตนเองมากขึ้น ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมหรือวัตถุภายนอกมากเกินไป การพัฒนาจิตใจของเราก็เป็นกรรมดีของเราเอง และการที่เรารู้เข้าใจความจริงอย่างนี้แล้ว ก็ทำให้เราใช้ทรัพย์ใช้อำนาจเป็นอุปกรณ์ในการสร้างสรรค์ความดีงามและประโยชน์สุข แทนที่จะเอาเป็นเครื่องมือมาบำรุงบำเรอตัวเอง และความยิ่งใหญ่ของตน การที่เราใช้ทรัพย์และยศตำแหน่งอำนาจในทางที่เป็นคุณค่า เป็นประโยชน์นั้น ก็เป็นกรรมดีของเรานั่นเอง กรรมดีอันนี้แหละจะเป็นสมบัติที่แท้จริงของเรา

เมื่อเราทำกรรมดีอย่างนี้มากขึ้นๆ เราก็จะมีอิสรภาพมากขึ้น กรรมดีคือการพัฒนาจิตใจของตนเองให้มีอิสระมากขึ้นนั้นก็ทำให้เรามีความสุขกับตนเองได้มากขึ้น ขึ้นต่อสิ่งภายนอกน้อยลง อิสรภาพของเราก็มากขึ้นเป็นการพัฒนาไปสู่ความมีอิสรภาพ แล้วกรรมนั้นก็จะมีประโยชน์ทั้งในแง่เป็นผลดีแก่ชีวิตของตนเองที่พัฒนาชีวิตจิตใจขึ้นไปสู่อิสรภาพ และเป็นประโยชน์แก่สังคมโดยนำไปสู่การทำกรรมดีงามที่เป็นการสร้างสรรค์ความดีและบำเพ็ญประโยชน์

เนื้อหาในเว็บไซต์นอกเหนือจากไฟล์หนังสือและไฟล์เสียงธรรมบรรยาย เป็นข้อมูลที่รวบรวมขึ้นใหม่เพื่อช่วยในการศึกษาค้นคว้าของผู้สนใจ โดยมิได้ผ่านการตรวจทานจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
ผู้ใช้พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือหรือเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง