ปีใหม่ ๒๕๔๙ นี้ ก็อย่างที่กล่าวแล้ว เป็นปีที่เราจะต้องก้าว ไม่ใช่หยุดอยู่กับที่ และต้องออกแรงก้าวจริงๆ ไม่ใช่แค่รอตัวเลข โชคลางให้ช่วยพาเราก้าวไป โดยตัวเองไม่ทำอะไร แต่ต้องย่างเท้าก้าวไป แล้วก็ต้องมีกำลังที่จะก้าว แล้วก็ต้องก้าวไปโดยมีสติปัญญา รู้ว่าจะก้าวไปไหน รู้ว่ามีภัยอันตรายอุปสรรคอยู่ตรงไหน มีหลุม มีเหวอยู่ตรงไหน จะต้องไม่ตกหลุม ไม่ตกเหวนั้น
ในการก้าวนั้น จะให้ดี ก็ต้องสามารถใช้ทั้งสี่เท้า ของอิทธิบาท แล้วก็ทั้งสี่ล้อ ของจตุจักรนี้ เพื่อที่จะก้าวไปอย่างมี ประสิทธิภาพ ให้บรรลุผลสมความมุ่งหมาย โดยที่ระหว่างนั้น กระบวนการก้าวไปนี้ ก็จะทำให้เรามีความสามารถในการพึ่งตน เพิ่มมากขึ้นตลอดเวลา
เป็นอันว่า การพัฒนาที่ดีที่สุดก็คือ การพัฒนาความสามารถในการพึ่งตนเอง ซึ่งก็คือการทำให้ตัวเรามีตนที่พึ่งได้
คนไทยจะต้องใช้หลักที่ว่ามานี้ให้เต็มที่ในปี ๒๕๔๙ ถ้าต้องการให้ปี ๒๕๔๙ เป็นปีแห่งความก้าวหน้าไป ก็จะต้องไม่ลืมหลักนี้เป็นอันขาด เราจะไปมัวหวังพึ่งอำนาจดลบันดาลภายนอกอยู่ไม่ได้
ถึงเวลามานานแล้ว ที่จะต้องตื่นกันขึ้นมา คนไทยจมอยู่ในลัทธิถือโชคลางและการหวังผลดลบันดาลมานานนักหนา แล้วก็พึ่งตนไม่ได้ ไม่ก้าวไปไหน เพราะฉะนั้น มาปลุกกันให้ตื่นเสียทีเถิด มาชวนกันก้าวไปในการสร้างตัวให้มีตนที่พึ่งได้
เฉพาะหน้าตอนนี้ เราเพียงแต่ว่า ทำจิตใจให้ดี โดยเริ่มต้นด้วยจิตใจที่สบายผ่องใสเบิกบาน แต่อย่าหยุดแค่นั้น
ถ้าไปหยุดอยู่แค่ว่าปี ๔๙ เป็นเลขดีนะ เป็นสิริมงคล แค่นั้น แล้วปล่อยเรื่อยเปื่อย เอาแต่รอโชครอลาภลอยมา ก็เคว้งคว้างไร้ความหมาย กลายเป็นคนประมาท เข้าคติที่ว่า “ความประมาท เป็นทางแห่งความตาย” เพราะฉะนั้น จะรอโชคไม่ได้ ต้องก้าวไปด้วยตนเอง
วันนี้เรามาพูดกันถึงเรื่องปีใหม่ แล้วทุกคนก็มีใจร่วมกันว่า กำลังจะทิ้งปีเก่า-ไปขึ้นปีใหม่ แต่ปีเก่านั้น อย่าทิ้งร้ายนะ ต้องทิ้งให้ดีด้วย คือทิ้งให้มันมีความหมายในเชิงที่เป็นคุณเป็นประโยชน์
ที่จริงนั้น ปีเก่านี่ดี เป็นประโยชน์มาก คือเป็นทุนดีของเรา ที่จะทำให้เราก้าวไปได้ในปี ๔๙ ถ้าเราไม่มีปี ๔๘ ที่ดี เราจะก้าวไปสู่ปี ๔๙ ให้ดีได้ยาก ฉะนั้นเราจึงต้องทำปี ๔๘ ให้ดี แต่ตอนนี้ปี ๔๘ กำลังจะหมดสิ้นไป และเราก็จะทำอะไรกับมันไม่ได้อีก ประโยชน์ที่จะได้จากมันก็คือว่า ถ้ามันไม่ดี ก็ให้เป็นบทเรียน อย่างน้อยก็เป็นเครื่องเตือนสติแก่เรา ในการที่จะได้เตรียมการก้าวไปในปี ๔๙ ให้ดีที่สุด
ก็ขอให้กำลังใจสนับสนุนแก่ทุกท่าน ในการที่จะสร้างความพร้อม เพื่อที่จะก้าวไปในปี ๒๕๔๙ โดยที่จะต้องมีความตระหนักรู้ด้วยว่า เวลานี้ ไม่ใช่ว่าตัวเราเท่านั้นที่จะก้าวไป แต่เคียงข้างตัวเรานั้น กาลเวลาก็กำลังก้าวไปอยู่ด้วย และมันก้าวไปแน่นอนจริงจัง ไม่มีการหยุดยั้งอย่างใดเลย ตัวเรานี้ต่างหากที่บางที่ก็เผลอประมาท
ขอให้คำนึงไว้ถึงคำพระที่ว่า -- อายุสังขาร ใช่จะประมาท ไปตามสัตว์ผู้ยืน นั่ง นอน หรือเดินอยู่ ก็หาไม่ ... วัยย่อมเสื่อมลงเรื่อยไป ทุกหลับตา ทุกลืมตา
ว่ากันตามจริง ตัวแท้ก็คือกาลเวลานั้นแหละที่ก้าวไป ซึ่งทำให้เกิด ปีเก่า-ปีใหม่
ทีนี้ พอรู้ตระหนักถึงความจริงนั้นแล้ว เมื่อกาลเวลาก้าวไป เราก็จะก้าวด้วย เราจะก้าวให้ทันกาลเวลานั้น หรือก้าวอย่างดีที่สุด ให้ประสบความดีงาม และลุถึงความสำเร็จ
จะสำเร็จได้อย่างไร ก็สำเร็จด้วยการใช้หลักที่ว่ามาแล้ว กล่าวคือ “ในเมื่อตนนั่นแหละคือที่พึ่งที่แท้ เราก็จะพึ่งตน แต่ถ้าเราจะพึ่งตน เราก็ต้องมีตนที่พึ่งได้ และเราจะมีตนที่พึ่งได้ เราก็ต้องฝึกศึกษาพัฒนาตนนั้นขึ้นไป”
แล้วทีนี้ เมื่อจะฝึกศึกษาพัฒนาตนขึ้นไปนั้น เราจะใช้หลักอิทธิบาท ๔ ก็ได้ คือใช้เท้าทั้งสี่นั้น พาตัวก้าวไปสู่ความสำเร็จ
แล้วจะให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ก็ใช้หลักจตุจักรติดสี่ล้อเข้าไปอีก ก็จะก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วเลย และบรรลุจุดหมายแน่นอน
วันนี้ขณะนี้ก็ถือว่าเป็นเวลาดีงาม เป็นสิริมงคล เพราะเรามาพูดกันในเรื่องที่ดีงาม คือมาพูดธรรมะกัน เราก็ทำให้กาลเวลานี้ ซึ่งที่จริงเป็นของกลางๆ กลายเป็นกาลเวลาที่ดี เป็นสิริมงคล จึงเป็นการเริ่มต้นที่ดี
ต่อจากนี้ไป เมื่อได้เริ่มต้นดีแล้ว ก็จะเดินหน้าไปอย่างดี อย่างมีประสิทธิภาพ ก้าวไปสู่ความเจริญงอกงาม สู่ความสำเร็จ สมหมาย
ในโอกาสนี้ ที่ถือว่าเป็นสิริมงคลแล้ว ก็ขอให้เราทั้งหลายมาทำปีใหม่ให้เป็นสิริมงคลสมตามที่ถือนั้น ด้วยการปฏิบัติตามหลักธรรมที่กล่าวมา
ดังที่ในวันนี้ อาตมาได้นำเอาธรรมะของพระพุทธเจ้า มาแสดงไว้หลายหมวดหลายตอน ท่านทั้งหลายสามารถเลือกใช้ได้ แต่คนไหนทำได้ครบทั้งหมด ก็นับว่าดีที่สุด
เพราะฉะนั้น ก็คงต้องแข่งกันหน่อย คือ ไม่ใช่แค่เลือกใช้ แต่จะทำให้ครบ ถ้าคนไหนทำได้ครบ หรือแม้แต่ช่วยกันทำให้ครบ ก็จะช่วยตัวเอง และช่วยสังคมประเทศชาติ ให้พึ่งตนได้ และให้ก้าวไปในปี ๒๕๔๙ สู่ความเจริญงอกงาม และความสำเร็จลุจุดหมายได้อย่างแน่นอน
ในโอกาสแห่งมงคลกาล ที่จะก้าวขึ้นสู่ปีใหม่ ๒๕๔๙ นี้ ขอตั้งกัลยาณจิต ส่งเสริมกำลังใจของท่านทั้งหลาย ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย อวยชัยให้พร
รตนัตตยานุภาเวนะ รตนัตตยะเตชะสา ด้วยเดชานุภาพคุณพระรัตนตรัย พร้อมทั้งบุญกุศลคุณความดีที่เราทั้งหลายได้บำเพ็ญสั่งสมกันมา และที่ตั้งใจจะทำข้างหน้าต่อไป จงเป็นพลัง อำนวยให้ทุกท่านประสบจตุรพิธพรชัย เจริญก้าวหน้าในการศึกษาเล่าเรียน ในอาชีพการงาน ในการสร้างสรรค์ชีวิต ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ และเกื้อหนุนโลกนี้ให้ก้าวหน้าไปในสันติสุข ตลอดกาลยั่งยืนนานทุกเมื่อ เทอญ...
หมายเหตุ: คำบรรยายนี้ เป็นธรรมกถาอวยพรปีใหม่ ๒๕๔๙ ซึ่ง ทีวีสีช่อง ๗ ถ่ายที่วัดญาณเวศกวัน ๒๔ ธ.ค. ๒๕๔๘
ถอดเทป - ด้วยความเอื้อเฟื้อของสหปฏิบัติฯ (โดย โกศล จึงเสถียรทรัพย์ และ คริษฐ์ อยู่แก้ว)