ครูนี่สังคมน่าจะเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพราะเป็นผู้สร้างคุณภาพของคน เป็นที่หล่อหลอมลูกๆ ของทุกคนทุกครอบครัว เราจะต้องคำนึงถึงครู นี่หมายถึงทั้งหมด ทั้งประเทศ มองให้ถึงชนบท ตามบ้านนอกโน่น ไม่ใช่ว่า...ขออภัย ได้ยินบ่อยๆ ครูบ้านนอกเดี๋ยวนี้นะ เขาบอกว่า พอสอนเสร็จ หลังเลิกเรียน (บางแห่ง) มาตั้งวงเหล้า ถ้าอย่างนี้ก็น่าเป็นห่วง...
ครูต้องเกิดจิตสำนึกว่า โอ...เราเป็นครูนะ ความเป็นครูคือผู้ทำหน้าที่อย่างนี้ๆ เราจะต้องนึกถึงเด็ก คำนึงถึงความสุข ความเจริญงอกงาม และความดีงามของเด็ก แล้วพยายามทำให้เด็กเจริญงอกงามอย่างดีที่สุด อย่างนี้เรียกว่าเกิดฉันทะ
ถ้าฉันทะเกิดขึ้น ก็มีจุดเริ่มต้น อย่างที่ว่า แสงเงินแสงทอง หรือแสงอรุณมาแล้ว ก็จะเดินหน้าสว่างเจิดจ้าต่อไป อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ จะต้องสร้างฉันทะขึ้นมา
ถ้าครูทำงานด้วยฉันทะนี้ คือมีความอยากที่จะทำให้ชีวิตของเด็กเป็นชีวิตที่ดี อยากให้เด็กเจริญงอกงาม อยากให้เด็กเป็นคนดี อยากให้ประเทศชาติสังคมของเรานี้มีคนที่มีคุณภาพ แล้วก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นไป ถ้าครูมีเจ้าตัวความอยากที่พระเรียกว่า ฉันทะอันนี้แล้ว ก็แน่ใจได้เลยว่าต้องเดินหน้า ไม่กี่ปีเปลี่ยนหมดเลย สภาพสังคมอะไรต่างๆ ...มันเปลี่ยนเองเลย
แต่นี่ ฉันทะมันไม่มีน่ะสิ ในเรื่องการสอน...ขออภัย ต้องใช้คำว่า บางทีครูก็สอนแบบซังกะตาย คือสักว่าสอน แต่ก็อย่างที่บอกแล้ว ในแง่หนึ่งก็ต้องเห็นใจ เพราะมันมีเหตุปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ครูเป็นอย่างนั้น เช่นไม่มีกำลังใจเลย อะไรที่จะมาช่วยส่งเสริมให้มีกำลังใจ ก็ไม่มี ความเอาใจใส่ของคนทั่วไปในสังคมก็น้อย การให้เกียรติก็ไม่ค่อยมี
แต่ก่อนนั้น ครู...สังคมให้เกียรติมากใช่ไหม ครูนี่แหม...ครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ให้ความนับถือมาก แม้แต่ว่าคุณพ่อคุณแม่ของเด็กนั้นจะเป็นผู้ใหญ่ ก็ต้องนับถือครู เดี๋ยวนี้ได้ยินมาแล้วน่าหดหู่ใจ คือครูไปไหนนี่คนไม่ค่อยให้เกียรติ แล้วนักการเมืองบางทีเอาครูมาเหมือนเป็นคนรับใช้...ใช่ไหม
นี่...อันนี้ต้องติเตียนนักการเมืองละ นักการเมืองต้องนำในเรื่องนี้ นักการเมืองต้องให้เกียรติครู ต้องแสดงออกให้รู้สึกว่านี่...เรานับถือครูนะ เวลาไปไหน...ไปในชนบท จะต้องให้เกียรติครู
เมื่อนักการเมืองนำอย่างนี้ โดยแสดงให้เห็นว่า ฉันให้เกียรติ ให้ความสำคัญแก่ครู ครูเองก็จะระวังตัวขึ้น ใช่ไหม คนที่คนอื่นให้ความเคารพนับถือ ก็จะเป็นปัจจัยภายนอกอย่างหนึ่งที่ทำให้เจ้าตัวต้องระมัดระวัง ที่จะปฏิบัติตนให้สมกับฐานะด้วย ถ้าไม่มีเกียรติ คนก็มักจะคิดว่าเราจะทำอย่างไรก็ได้ ใช่ไหม
เพราะฉะนั้น สังคมจะต้องเชิดชูครูให้เห็นๆ นักการเมืองเป็นบุคคลที่ทำงานนี้ได้ทันที จะต้องย้ำว่านักการเมืองต้องช่วยหน่อย ไปไหน ไปชนบท ต้องให้เกียรติครู แล้วสังคมจะเปลี่ยนไปอย่างเห็นๆ เลย
แล้วก็ในสังคมทั่วไปและในชุมชนก็ต้องให้เกียรติครู แต่ลองเถิด ถ้านักการเมืองให้เกียรติครูนะ คนในถิ่นนั้นเดี๋ยวก็ต้องให้เกียรติครู... มันก็เป็นไปเอง เพราะฉะนั้น ถ้าจะเริ่มก็เริ่มให้ตรงจุด
เดี๋ยวนี้เราได้ยินในทางตรงข้าม กลายเป็นว่านักการเมืองไปเอาครูมารับใช้ อย่างนี้ก็หมดกันเท่านั้นแหละสังคมเรา นี่…เดี๋ยวจะเป็นการติเตียนนักการเมืองไปเสีย แต่นักการเมืองที่ดีก็มี ท่านก็ต้องรับฟังเรา ใช่ไหม