ทีนี้ หันมาดูวินัยบ้าง วินัยคืออะไร?
วินัยมีขึ้นเพื่อจัดสรรโอกาส และในความหมายหนึ่ง วินัย ก็คือการจัดสรรโอกาส หรือจัดให้มีโอกาส
ที่ว่านี้จริงหรือไม่ ลองคิดดูให้ดี
อย่ามองแค่ว่าวินัยเป็นเครื่องควบคุมจำกัด เดี๋ยวจะบอกว่าวินัยจำกัดเสรีภาพ แต่ดูกันให้ถึงความหมายที่แท้
โดยพื้นฐานนั้น เขาตั้งวินัยขึ้นเพราะต้องการจัดให้มีโอกาส ให้เรามีโอกาส ถ้าไม่มีวินัย เราก็จะไม่มีโอกาส
ดูตัวอย่างตรงหน้านี้แหละ ญาติโยมนั่งกันอยู่นี่ ขณะนี้ ก็คือฟังอาตมาพูด ทีนี้ ถ้าทำตามเสรีภาพแบบที่ว่าใครอยากจะพูดก็พูด ใครอยากจะเดินก็เดิน ฯลฯ เอาละซิ ในที่ประชุมนี้ คนนั้นก็พูด คนนี้ก็พูด เสียงโน้นมา เสียงนั้นมา ว่ากันวุ่น เสียงเซ็งแซ่ไปหมด ที่ว่าจะฟังอาตมาพูด ก็ฟังไม่รู้เรื่อง
นี่เรียกว่าขาดวินัยใช่ไหม เสรีภาพก็ใช้โอกาสไม่ได้ กลายเป็นสูญเสียโอกาส หรือทุกคนก็หมดโอกาสไปด้วยกัน และเสรีภาพก็ไร้โอกาสที่จะเอาไปใช้ นี่ก็คือหมดเสรีภาพไปด้วยกันนั่นเอง
เขาจัดวินัยเพื่อให้คนมีโอกาสทำกิจกรรมอะไรๆ ได้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ อยากจะพูดอยากจะฟังอะไร ก็พูดก็ฟังได้ นี่ก็คือโอกาส ซึ่งเสรีภาพจะได้มาใช้
เราจัดงานขึ้น เพื่อจะให้โยมได้ฟังธรรม พอมีวินัย โอกาสที่จะฟังก็มีจริง และโยมก็ใช้โอกาสนั้นได้ โยมก็ได้ฟังธรรมใช่ไหม
แต่ถ้าไม่เอาวินัย บอกว่าให้เสรีภาพ ใครอยากจะทำอะไร ก็ทำไปตามชอบใจของตัว ฉันอยากจะพูดอะไร อยากจะเดินไปไหน ก็พูดก็ลุกขึ้นมาเดินกันเอะอะพล่านไป
เลยกลายเป็นว่า คนมีเสรีภาพนี้เป็นตัวก่อกวน ทำให้เสียโอกาส แล้วก็ทำให้ทั้งคนอื่นและตัวเองหมดเสรีภาพไปด้วยกัน
มองกว้างออกไปตามท้องถนน เราให้คนมีวินัยมีกฎหมายมีศีลนี่ ก็ทำให้คนไม่ทำอะไรตามชอบใจ เราอยากจะลักขโมยแย่งชิงของใคร เราก็ไม่ไปแย่งชิง เราโกรธใคร ก็ไม่ไปทำร้าย
ทีนี้ เมื่อตามท้องถนนและในสถานที่ต่างๆ ไม่มีคนไปเที่ยวรุกรานทำตามชอบใจ ไม่มีใครไปแย่งชิงของเขา คนมีวินัยแล้ว สถานที่สาธารณะเหล่านั้นก็ปลอดภัย โอกาสก็เกิดขึ้น และคนก็เอาเสรีภาพมาใช้โอกาสนั้นได้ คนมีกิจมีธุระก็ไปได้คล่องกายคล่องใจ
นี่แหละ ที่เขามีกฎหมายเป็นวินัยขึ้นมา ก็เพื่อจัดสรรให้เกิดโอกาสแก่มนุษย์ พอมีวินัยปั๊บ ก็เกิดโอกาสทันทีเลย ถ้ายิ่งคนมีวินัยกันดี ไม่มีการเบียดเบียนกัน ไม่มีการทำร้ายใครเลย ปลอดภัยเต็มที่ ไม่ต้องหวาดระแวงเลย จะไปทำกิจธุระที่ไหนก็ไปได้ แม้แต่กลางคืนดึกๆ ก็ไปได้ เท่ากับมีหลักประกันเสรีภาพอย่างดีเลยทีเดียว
แต่ถ้าไม่มีวินัย จะเป็นอย่างไร ก็แน่นอนว่าจะยุ่งวุ่นวายไปหมด จะไปไหน ก็หวาดระแวง ไม่กล้าไป ถนนโน้นก็ไปไม่ได้ ถนนนี้ก็ไปไม่ได้ หรือว่าจะไปได้เฉพาะเวลานั้นเวลานี้เท่านั้น ก็เป็นอันว่าติดขัดไปหมด
ความไม่มีวินัยทำให้เสียโอกาส และเป็นตัวปิดกั้นเสรีภาพ
วินัยมีไว้เพื่อจัดสรรโอกาส วินัยมีขึ้นเพื่อให้เกิดโอกาสทั้งนั้น แล้วเสรีภาพก็จะได้มาใช้โอกาสที่เกิดจากวินัยนั้น แต่เป็นปัญหาที่ว่าคนไม่เข้าใจ คนมองวินัยผิด ต้องตระหนักว่า ถ้าไม่มีวินัยแล้วโอกาสจะเสียไปหมดทุกอย่างทุกประการ
แม้แต่คุณหมอจะผ่าตัด ก็ต้องจัดระเบียบ คือให้มีวินัยว่า พยาบาลยืนเข้าที่ตรงไหน มีกี่คน คนไหนทำหน้าที่อะไร และลำดับหน้าที่กันให้ถูก เครื่องมือก็จัดวางตามลำดับไว้เป็นระเบียบ เครื่องมือไหนต้องส่งก่อนส่งหลัง ก็ว่าไปตามลำดับที่ชัดเจน ถ้าขืนผิดวินัย แค่ผิดลำดับสับสนวุ่นวาย บางทีคนไข้ตายเลย
นี่แหละ วินัยจึงจัดสรรให้เกิดโอกาสในการที่จะทำงานให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ และเพราะฉะนั้น สังคมที่ดี จึงต้องมีวินัย
แม้แต่อย่างง่ายๆ ในการจราจร ลองไม่มีวินัย คือคนไม่รักษากฎจราจรซิ บอกว่าฉันมีเสรีภาพ ฉันจะขับไปตามใจฉัน รถคันนั้นอยากจะไป ก็ไป รถคันนี้อยากจะไป ก็ไป ในที่สุด ติดอยู่นั่นทุกคน ไปไม่ได้เลยสักคัน เอ นี่… ทุกคนบอกว่ามีเสรีภาพ และใช้เสรีภาพกันเต็มที่ แต่ขาดวินัย เลยหมดเสรีภาพไปด้วยกันหมดทุกคน
แต่พอมีวินัย ก็จัดกันให้เรียบร้อยเป็นแถวเป็นแนวและมีลำดับ โอกาสที่จะไป ก็เกิดขึ้นอย่างดี แล้วทุกคนก็มีเสรีภาพตามกติกา ซึ่งทำให้ขับรถไปได้อย่างดี นี่คือมีวินัย แล้วก็ใช้เสรีภาพกันได้ทุกคน
อย่างในบ้านของญาติโยม จะตั้งโต๊ะ ตั้งเก้าอี้ ก็ต้องมีวินัย ตรงนี้ทางเดินนะ อย่าเอาโต๊ะมาตั้งขวาง อย่าเอาของมาเกะกะ แต่ถ้าเอากระโถนมาวางขวางทางไปประตู เดินไปเตะกระโถนซะนี่ แล้วถ้าล้มลง ก็จะเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ทำให้ติดขัดไปหมด
เพราะฉะนั้น จึงต้องมีวินัยในบ้าน รู้จักจัดข้าวของให้เรียบร้อย อะไรควรจะอยู่ที่ไหน ก็จัดเข้าที่ไป ก็โล่งเลย ทำให้เกิดโอกาส แล้วเสรีภาพก็คล่องสบายเลย พอจะเดิน ก็เดินตามช่อง จากประตูหน้าบ้านถึงท้ายครัว ก็พรวดเดียวถึงเลย เพราะไม่มีอะไรติดขัด
นี่คือวินัยมาให้เสรีภาพ
เพราะฉะนั้น จึงขอให้เข้าใจความหมายของวินัยที่ถูกต้องว่า วินัยนั้น เป็นการจัดสรรให้เกิดโอกาส แล้วมันก็มาบรรจบกับเสรีภาพ ที่ว่าเสรีภาพก็มาใช้โอกาสได้สบาย
เป็นอันว่า วินัย กับ เสรีภาพ สองตัวนี้มีไว้ เพื่อให้เกิดโอกาส และจะได้ใช้โอกาสได้คล่องสบาย