เพื่อให้การปิดทองลูกนิมิตเป็นบุญเป็นกุศลมากขึ้น โดยเจริญด้วยคุณค่าสาระทางธรรมทางปัญญา จึงขอมอบคาถาพุทธภาษิตให้ท่านที่จะปิดทองจดจำเป็นคติ และนำไปว่าขณะปิดทอง โดยปฏิบัติตามข้อแนะนำต่อไปนี้
๑. นำแผ่นทองท่านละ ๙ แผ่นพร้อมทั้งคาถาพุทธภาษิต ๑ แผ่น จากตู้ที่จัดไว้
๒. ท่องคาถาพุทธภาษิตให้คล่อง
๓. ขณะปิดทองลูกนิมิตแต่ละลูก ทำจิตใจให้เบิกบานสดใส พร้อมกับว่าคาถาพุทธภาษิตไปด้วย
หมายเหตุ:
- เมื่อปิดทองเสร็จแล้ว โปรดทิ้งกระดาษประกบแผ่นทองลงในถัง เพื่อช่วยรักษาความสะอาดบริเวณวัด
- ถ้าแผ่นทองหมด หรือหาแผ่นทองไม่พบ
โปรดติดต่อ แจ้งเจ้าหน้าที่วัด หรือพระภิกษุให้ทราบ
ต่อไปนี้จะนำคาถาพุทธภาษิตมาลงพิมพ์เรียงลำดับไว้ เพื่อให้ผู้ที่ใฝ่ธรรมจะได้อ่านไตร่ตรองเจริญธรรม หรือจดจำไว้เป็นคติสืบไป
(เรียงตามอักษรบาลี)
อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ (๑๔/๕๒๗) รีบทำความเพียรเสียแต่วันนี้ |
อตฺตนา โจทยตฺตานํ (๒๕/๓๕) จงเตือนตนด้วยตนเอง |
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ (๒๕/๒๒) มีตนที่ฝึกดีแล้วนั่นแหละ คือได้ที่พึ่งที่หาได้ยาก |
อตฺตา สุทนฺโต ปุริสสฺส โชติ (๑๕/๖๖๕) ตนที่ฝึกดีแล้ว เป็นเครื่องรุ่งเรืองของคน |
อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา (๒๕/๑๖) บัณฑิตย่อมฝึกตน |
อนากุลา จ กมฺมนฺตา เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ (๒๕/๓๑๘) การงานไม่คั่งค้างสับสน เป็นมงคลอันสูงสุด |
อนิพฺพินฺทิยการิสฺส สมฺมทตฺโต วิปจฺจติ (๒๗/๒๔๔๔) ทำเรื่อยไป ไม่ท้อถอย ผลที่ประสงค์จะสำเร็จสมหมาย |
อปฺปมตฺตา น มียนฺติ (๒๕/๑๒) ผู้ไม่ประมาท ย่อมไม่ตาย |
อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ (๑๐/๑๔๓) จงทำประโยชน์ให้สำเร็จ ด้วยความไม่ประมาท |
อปฺปมาโท อมตํ ปทํ (๒๕/๑๒) ความไม่ประมาท เป็นทางไม่ตาย |
อโมฆํ ทิวสํ กยิรา อปฺเปน พหุเกน วา (๒๖/๓๕๙) เวลาแต่ละวัน อย่าให้ผ่านไปเปล่า จะน้อยหรือมาก ก็ให้ได้อะไรบ้าง |
อโหรตฺตมตนฺทิตํ ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ (๑๔/๕๒๒) ขยันทั้งคืนวัน ไม่ซึมเซา นั้นแลเรียกว่า มีแต่ละวันนำโชค |
อาปูรติ ธีโร ปุญฺสฺส โถกํ โถกํปิ อาจินํ (๒๕/๑๙) ธีรชนสร้างความดีทีละน้อย ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความดี |
อาโรคฺยปรมา ลาภา (๑๓/๒๘๗) ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ |
อาสึเสเถว ปุริโส (๒๘/๔๕๐) เป็นคนควรหวังเรื่อยไป |
กตฺตพฺพํ กุสลํ พหุ (๒๕/๑๔) เกิดมาแล้วชาติหนึ่ง พึงสร้างความดีไว้ให้มาก |
กถมฺภูตสฺส เม รตฺตินฺทิวา (๒๔/๔๘) วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่ |
กมฺมุนา วตฺตตี โลโก (๑๓/๗๐๗) สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม |
กมฺมุนา โหติ พฺราหฺมโณ (๑๓/๗๐๗) เป็นคนประเสริฐ เพราะการกระทำ |
โกธํ ฆตฺวา สุขํ เสติ (๑๕/๑๙๙) ฆ่าความโกรธได้ ย่อมอยู่เป็นสุข |
ขโณ โว มา อุปจฺจคา (๒๕/๓๒๗) อย่าปล่อยโอกาสให้ผ่านเลยไปเสีย |
จิตฺตสฺส ทมโถ สาธุ (๒๕/๑๓) การฝึกจิต ให้เกิดผลดี |
จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ (๒๕/๑๓) จิตที่ฝึกแล้ว นำสุขมาให้ |
จิตฺตํ รกฺเขถ เมธาวี (๒๕/๑๓) ผู้มีปัญญาพึงรักษาจิต |
ตญฺจ กมฺมํ กตํ สาธุ ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ (๑๕/๒๘๑) ทำกรรมใดแล้ว ไม่ร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำนั้นแลดี |
ททมาโน ปิโย โหติ (๒๒/๓๕) ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก |
ทนฺโต เสฏฺโ มนุสฺเสสุ (๒๕/๓๓) ในหมู่มนุษย์ คนที่ฝึกแล้วประเสริฐสุด |
ทฬฺหเมนํ ปรกฺกเม (๑๕/๒๓๙) พึงบากบั่นทำการให้มั่นคง |
ทินฺนํ สุขผลํ โหติ (๑๕/๑๓๖) ของที่ให้แล้ว ชื่อว่าอำนวยสุขเป็นผลแล้ว |
เทวา น อิสฺสนฺติ ปุริสปรกฺกมสฺส (๒๗/๕๐๕) ความเพียรของคนไม่ลดละ ถึงเทวดาก็กีดกันไม่ได้ |
ธมฺมจารี สุขํ เสติ (๒๕/๒๓) ผู้ประพฤติธรรม ย่อมอยู่เป็นสุข |
ธมฺมปีติ สุขํ เสติ (๒๕/๑๖) ผู้อิ่มใจในธรรม ย่อมนอนเป็นสุข |
ธมฺเม ิโต ปรโลกํ น ภาเย (๑๕/๒๐๔) ตั้งอยู่ในธรรมแล้ว ไม่ต้องกลัวปรโลก |
ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ (๒๖/๓๓๒) ธรรมที่ประพฤติดีแล้ว นำมาซึ่งความสุข |
ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ (๒๖/๓๓๒) ธรรมนั่นแหละ รักษาผู้ประพฤติธรรม |
ธีโร จ สุขสํวาโส (๒๕/๒๕) ปราชญ์มีการอยู่ร่วมเป็นสุข |
นตฺถิ ปฺาสมา อาภา (๑๕/๒๙) แสงสว่างเสมอด้วยปัญญา ไม่มี |
นิชฺฌตฺติพลา ปณฺฑิตา (๒๓/๑๑๗) ขุมกำลังของบัณฑิต คือการรู้จักพินิจ |
นิปฺผนฺนโสภิโน อตฺถา (๑๕/๘๙๔) ประโยชน์งามตรงที่สำเร็จ |
นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ (ขุ.ธ. ๒๕/๔๒) นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง |
นิวตฺตยนฺติ โสกมฺหา (๒๗/๑๔๙๒) คนใจการุณย์ ช่วยแก้ไขให้คนหายโศกเศร้า |
โนปลิปฺปติ โลเกน โตเยน ปทุมํ ยถา (๒๖/๓๘๔) ไม่ติดโลก เหมือนบัวไม่ติดน้ำ |
ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺติ เตน วณฺโณ ปสีทติ (๑๕/๒๒) อยู่กับปัจจุบัน ผิวพรรณจะผ่องใส |
ปฺํ นปฺปมชฺเชยฺย (๑๔/๖๘๓) ไม่พึงละเลยการใช้ปัญญา |
ปฺฺา เจนํ ปสาสติ (๑๕/๑๗๕) ปัญญาเป็นเครื่องปกครองตัว |
ปฺา นรานํ รตนํ (๑๕/๑๕๙) ปัญญาเป็นดวงแก้วของคน |
ปฺา โลกสฺมิ ปชฺโชโต (๑๕/๒๑๗) ปัญญาเป็นดวงชวาลาในโลก |
ปฺา ว ธเนน เสยฺโย (๑๓/๔๕๑) ปัญญาแล ประเสริฐกว่าทรัพย์ |
ปฺา สุตวินิจฺฉินี (๒๗/๒๔๔๔) ปัญญาเป็นเครื่องวินิจฉัยสิ่งที่ได้เล่าเรียน |
ปฺาชีวึ ชีวิตมาหุ เสฏฺ (๑๕/๘๔๑) ปราชญ์ว่า ชีวิตที่อยู่ด้วยปัญญา ประเสริฐสุด |
ปฺาย ติตฺตีนํ เสฏฺ (๒๗/๑๖๔๓) อิ่มด้วยปัญญา ประเสริฐกว่าความอิ่มทั้งหลาย |
ปฺาย อตฺถํ ชานาติ (๒๖/๒๖๘) ด้วยปัญญา จึงจะรู้ว่าอะไรเป็นประโยชน์ |
ปฺายตฺถํ วิปสฺสติ (๒๓/๓) ด้วยปัญญา จึงจะเห็นอรรถชัดแจ้ง |
ปฺาสหิโต นโร อิธ ทุกฺเข สุขานิ วินฺทติ (๒๗/๒๔๔๔) คนมีปัญญา ถึงแม้ตกทุกข์ ก็ยังหาสุขพบ |
ปฏิรูปการี ธุรวา อุฏฺาตา วินฺทเต ธนํ (๑๕/๘๔๕) ขยัน เอาธุระ ทำเหมาะจังหวะ ย่อมหาทรัพย์ได้ |
ปณฺฑิตา โสกนุทา ภวนฺติ (๒๘/๓๓๓) บัณฑิตช่วยปัดเป่าทุกข์โศกความเศร้าของปวงชน |
ปฺุํ โจเรหิ ทูหรํ (๑๕/๑๕๙) ความดี โจรลักไม่ได้ |
ภเวยฺย ปริปุจฺฉโก (๒๘/๙๔๙) พึงเป็นนักสอบถามหาความรู้ |
โภคา สนฺนิจยํ ยนฺติ วมฺมิโกวูปจียติ (๑๑/๑๙๗) ทรัพย์สินย่อมพอกพูนขึ้นได้ เหมือนดังก่อจอมปลวก |
มา ชาตึ ปุจฺฉ จรณฺจ ปุจฺฉ (๑๕/๖๖๐) อย่าถามถึงชาติกำเนิด จงถามถึงความประพฤติ |
ยํ ลทฺธํ เตน ตุฏฺพฺพํ (๒๗/๑๓๖) ได้สิ่งใด พึงพอใจด้วยสิ่งนั้น |
โยคา เว ชายเต ภูริ (๒๕/๓๐) ปัญญา ย่อมเกิดเพราะใช้การ |
รตฺโย อโมฆา คจฺฉนฺติ (๒๘/๔๓๙) คืนวันไม่ผ่านไปเปล่า |
ลพฺภา ปิยา โอจิตตฺเตน ปจฺฉา (๒๘/๓๗๕) เตรียมตัวไว้ให้ดีก่อนแล้ว ต่อไปก็จะได้สิ่งที่รัก |
วายเมเถว ปุริโส ยาว อตฺถสฺส นิปฺปทา (๑๕/๘๙๑) เป็นคนควรพยายามเรื่อยไป จนกว่าผลที่หมายจะสำเร็จ |
วิเจยฺยทานํ สุคตปฺปสตฺถํ (๑๕/๙๙) ให้ด้วยพิจารณา พระศาสดาทรงสรรเสริญ |
วิชฺชา อุปฺปตตํ เสฏฺา (๑๕/๒๐๖) บรรดาสิ่งที่งอกงามขึ้นมา วิชชาประเสริฐสุด |
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโ เทวมานุเส (๑๑/๗๒) ผู้สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรรยา ชื่อว่าประเสริฐสุดทั้งในหมู่มนุษย์และเทวดา |
วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ (๒๕/๓๑๑) คนล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร |
สจิตฺตมนุรกฺขถ (๒๕/๓๓) จงตามรักษาจิตของตน |
สจฺจํ หเว สาธุตรํ รสานํ (๒๕/๓๑๑) สัจจะ เป็นรสดียิ่งกว่าประดารส |
สติ ปโตโท ธีรสฺส (๒๘/๘๙๑) สติเป็นปฏักของนักปราชญ์ |
สติ โลกสฺมิ ชาคโร (๑๕/๒๑๗) สติเป็นความตื่นตัวในโลก |
สติมโต สทา ภทฺทํ (๑๕/๘๑๒) คนมีสติ เท่ากับมีของดีที่นำโชคตลอดเวลา |
สติมโต สุเว เสยฺโย (๑๕/๘๑๒) คนมีสติย่อมดีขึ้นทุกวัน |
สทฺธา ทุติยา ปุริสสฺส โหติ (๑๕/๑๗๕) ศรัทธาเป็นมิตรคู่ใจตน |
สทฺธีธ วิตฺตํ ปุริสสฺส เสฏฺ (๑๕/๒๐๓) ศรัทธาเป็นทรัพย์ประเสริฐของคนในโลกนี้ |
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ (๒๕/๓๔) การให้ธรรม ชนะการให้ทั้งปวง |
สพฺพํ อิสฺสริยํ สุขํ (๒๕/๖๓) อิสรภาพเป็นสุขทั้งสิ้น |
สพฺเพสํ สหิโต โหติ (๒๓/๑๒๘) คนดี บำเพ็ญประโยชน์แก่ปวงชน |
สมคฺคานํ ตโป สุโข (๒๕/๒๕) เมื่อคนพร้อมเพรียงกัน ความเพียรพยายามก็นำสุขมาให้ |
สมุฏฺาเปติ อตฺตานํ อณุ อคฺคึว สนฺธมํ (๒๗/๔) ตั้งตัวให้ได้ เหมือนก่อไฟจากเชื้อนิดเดียว |
สยํ กตานิ ปฺุานิ ตํ มิตฺตํ สมฺปรายิกํ (๑๕/๑๕๙) บุญที่ทำไว้เอง เป็นมิตรตามตัวไปเบื้องหน้า |
สยํ กตานิ ปฺุานิ ตํ เว อาเวณิยํ ธนํ (๒๗/๑๙๙๘) ความดีที่ทำไว้เองนั่นแล เป็นทรัพย์ส่วนตัวแท้ๆ |
สํวิรุฬฺเหถ เมธาวี (๒๗/๒๑๔๑) เล่าเรียนมีปัญญา จะเจริญงอกงาม |
สิกฺเขยฺย สิกฺขิตพฺพานิ (๒๗/๑๐๘) อะไรควรศึกษา ก็พึงศึกษาเถิด |
สีลํ กวจมพฺภุตํ (๒๖/๓๗๘) ศีล เป็นเกราะอย่างอัศจรรย์ |
สีลํ ยาว ชรา สาธุ (๑๕/๑๕๙) ศีลยังประโยชน์ ให้สำเร็จตราบเท่าชรา |
สีลํ อาภรณํ เสฏฺ(๒๖/๓๗๘) ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ |
สุกรํ สาธุนา สาธุ (๒๕/๑๒๔) ความดี คนดีทำง่าย |
สุขสฺส ทาตา เมธาวี สุขํ โส อธิคจฺฉติ (๒๒/๓๗) คนฉลาด ให้ความสุข ก็ได้ความสุข |
สุขสฺส ทาตา เมธาวี สุขํ โส อธิคจฺฉติ (๒๒/๓๗) คนฉลาด ให้ความสุข ก็ได้ความสุข |
สุขํ วต ตสฺส น โหติ กิฺจิ (๒๕/๕๕) ไม่มีอะไรค้างใจกังวล มีแต่ความสุขหนอ |
สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี (๒๕/๑๙๔) สามัคคีของหมู่ ให้เกิดสุข |
สุขา สทฺธา ปติฏฺิตา (๒๕/๓๓) ศรัทธาตั้งมั่นแล้ว นำสุขมาให้ |
สุขิโน วตารหนฺโต (๑๗/๑๕๓) ท่านผู้ไกลกิเลส ช่างมีแต่ความสุข |
สุโข ปฺาย ปฏิลาโภ (๒๕/๓๓) การได้ปัญญา นำมาซึ่งความสุข |
สุโข ปฺุสฺส อุจฺจโย (๒๕/๑๙) การสร้างสมความดี นำสุขมาให้ |
สุโข พุทฺธานมุปฺปาโท (๒๕/๒๔) ความเกิดขึ้นแห่งท่านผู้รู้ทั้งหลาย นำสุขมาให้ |
สุนกฺขตฺตํ สุมงฺคลํ สุปภาตํ สุหุฏฺิตํ (๒๐/๕๙๕) ประพฤติชอบเวลาใด เวลานั้นชื่อว่าฤกษ์ดี มงคลดี เช้าดี รุ่งอรุณดี |
สุภาสิตา จ ยา วาจา เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ (๒๕/๖) พูดดี เป็นมงคลอันอุดม |
เสยฺโย อมิตฺโต เมธาวี ยฺเจ พาลานุกมฺปโก (๒๗/๔๕) มีศัตรูเป็นบัณฑิต ดีกว่ามีมิตรเป็นพาล |
ยาทิสฺจูปเสวติ โสปิ ตาทิสโก โหติ (๒๗/๒๑๕๒) คบคนเช่นใด ก็เป็นเช่นคนนั้น |
หิโต พหุนฺนํ ปฏิปชฺชโภเค (๑๕/๑๓๘) คนดีจัดการโภคทรัพย์ให้เป็นประโยชน์แก่คนจำนวนมาก
|