วันมงคลสมรสนี้ถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดี คือเป็นวันที่คู่สมรสมาพร้อมใจกันเริ่มต้นใช้ธรรมมงคลทั้ง ๔ ข้อนี้ เป็นหลักแห่งการดำเนินชีวิตคู่ครอง เหมือนกับว่าสองท่านนี้มาร่วมกันปลูกต้นไม้ขึ้นต้นหนึ่ง และเมื่อช่วยกันปลูกไว้แล้ว ก็ช่วยกันหล่อเลี้ยงบำรุงต้นไม้นี้ให้ดี ให้เจริญงอกงามมั่นคง เพื่อให้ต้นไม้ต้นนี้มีคุณสมบัติสมบูรณ์ทั้ง ๔ ประการ คือ
ประการที่ ๑ มีรากแก้วที่มั่นคง แข็งแรง
ประการที่ ๒ มีความเจริญเติบโต มีความงอกงามอย่างดี
ประการที่ ๓ มีความทนทานต่อสายลมแสงแดด ต่อวัชพืช และสัตว์ที่จะมารบกวน พืชนี่จะต้องแข็งแรงทนทาน เพราะว่าบางทีอาจมีแมลง มีเพลี้ย มีสัตว์ชนิดต่างๆ มาทำอันตราย ถ้าไม่เข้มแข็งทนทานก็สู้ไม่ไหว อาจจะถึงกับตั้งอยู่ไม่ได้ และต้องทนต่อแรงลม เพราะบางทีมีพายุใหญ่ ต้นไม้ที่แข็งแรงจึงจะทนได้ ถ้าต้นไม้อ่อนแอก็จะล้มจะโค่นลงไป ลมพายุหรือมรสุมอาจจะมีได้ในชีวิต เราจะประมาทไม่ได้ จึงต้องมีความเข้มแข็งไว้ก่อน
และประการที่ ๔ มีน้ำหล่อเลี้ยงชื่นฉ่ำบริบูรณ์ ข้อนี้สำคัญมาก ขาดไม่ได้ เมื่อมีน้ำหล่อเลี้ยงบริบูรณ์ ต้นไม้ก็งาม มีความร่มรื่น แตกกิ่งก้านสาขา ใบก็ดกเขียวขจี มีดอกมีผล เป็นประโยชน์ไม่เฉพาะแก่ตนเองเท่านั้น คือนอกจากตัวเองจะชุ่มฉ่ำ สดชื่น มีความสุขแล้ว ต่อไปยังจะแผ่ประโยชน์ออกไปแก่ผู้อื่นอีกด้วย กล่าวคือเมื่อต้นไม้นี้แตกใบงอกงาม แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มให้เงาดี มีดอกมีผล คนเหนื่อยคนเดินทางมาไกลๆ ก็เข้ามาหลบพักอาศัยร่มไม้ได้ ได้ชื่นอกชื่นใจมีความสุข แม้แต่สัตว์ทั้งหลาย เริ่มด้วยหมู่นกหมู่กาก็มาอาศัยต้นไม้นี้ มีความสุขสบาย ผู้คนได้ฟังเสียงนกเสียงกาก็สบายใจไปอีกด้วย ถ้าหิวกระหายก็อาจจะมีผลให้รับประทานช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตได้ นอกจากนั้น ก็เป็นที่ให้ความร่มเย็นโดยทั่วไป ให้ความชุ่มฉ่ำแก่แผ่นดิน เลี้ยงโลกเลี้ยงแผ่นดินไว้ ทำให้โลกนี้น่าอยู่ เพราะฉะนั้นต้นไม้ที่ดีที่อุดมสมบูรณ์จึงเป็นประโยชน์มาก ทั้งชีวิตของตนเองก็ดี ทั้งดีแก่ผู้อื่น ตลอดจนสิ่งอื่นสิ่งแวดล้อมทั่วไปทั้งหมดด้วย
เป็นอันว่า ต้นไม้แห่งชีวิตคู่นี้มีคุณสมบัติ ๔ ประการคือ
ในสี่ข้อนี้ ข้อ ๑ รากคือ สัจจะ ความจริง ข้อ ๒ ศักยภาพในการเจริญงอกงามคือ ทมะ การรู้จักปรับตัวปรับปรุงตน พัฒนาตนอยู่เรื่อยไป ข้อ ๓ ความแข็งแรงทนทาน คือ ขันติ ข้อ ๔ น้ำหล่อเลี้ยงคือ จาคะ
ต้นไม้ที่มีความงอกงามเจริญดีนั้น ไม่ต้องเข้ามาอาศัยใต้ต้นดอก แม้เพียงได้เห็นก็สบายใจทันที คนเห็นต้นไม้เขียวขจี มีดอกใบสะพรั่งพร้อม เห็นดอกสดสีแดง สีเหลือง สีขาว สีม่วง หรือสีอะไรก็ตาม ก็ชื่นอกชื่นใจ อย่างคนเดินทางมาไกลๆ พอมาเห็นหมู่ไม้ใจก็ฟูมีกำลัง ชีวิตครองเรือนที่ดำรงรักษาไว้ได้ดีมีความเจริญงอกงามอย่างนี้ จึงให้ความสุขไม่เฉพาะแก่ตนเองเท่านั้น แต่ยังแผ่ความสุขความร่มเย็นออกไป คนอื่นได้เห็นอย่างน้อยก็พลอยอิ่มใจสบายใจไปด้วย
เพราะฉะนั้นให้ถือว่าเมื่อมาเข้าสู่พิธีมงคลสมรสนั้น ก็เหมือนเป็นนิมิตแห่งการเริ่มต้นว่า เราทั้งสองมาพร้อมใจกันปลูกต้นไม้ต้นนี้ขึ้น เรียกว่าต้นไม้แห่งชีวิตคู่ ซึ่งมีคุณสมบัติ ๔ ประการ แล้วพยายามช่วยกันหล่อเลี้ยงบำรุง รักษาให้ดี ให้เจริญงอกงาม ให้มีคุณสมบัติครบทั้ง ๔ ประการนี้ให้ได้ ซึ่งก็อยู่ที่ตัวเรา เป็นผู้ที่จะทำให้ต้นไม้ต้นนี้เจริญงอกงามไปได้อย่างไร
ที่กล่าวมานี้เป็นหลักธรรมชุดหนึ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้อันเหมาะสมสำหรับชีวิตคู่ครอง ในโอกาสนี้อาตมาในนามของพระสงฆ์ ขอตั้งกัลยาณจิต อาราธนาคุณพระรัตนตรัย อวยชัยให้พรแก่คู่สมรส พร้อมทั้งญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย มิตรสหาย และท่านที่เคารพนับถือทั้งหลาย ขอจงอภิบาลรักษาให้ทุกท่านเจริญงอกงามด้วยจตุรพิธพรชัย มีความเจริญงอกงามก้าวหน้า ประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต ในการประกอบกิจหน้าที่การงานให้บรรลุผลสมหมาย บรรลุถึงซึ่งประโยชน์สุขทั้งแก่ตนเอง เริ่มแต่ชีวิตในครอบครัวและแผ่ประโยชน์สุขนี้ไปให้แก่สังคมส่วนรวม ตลอดจนเพื่อนมนุษย์โดยทั่วไป จงมีความร่มเย็นเป็นสุขในธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดกาลนานเทอญ
---
๑. หน้า ๑-๖ คัดจากหัวข้อธรรม “สมชีวีกถา” ในหนังสือ คู่สร้างคู่สม ชีวิตคู่ในอุดมคติ ของ พระธรรมปิฎก (ป. อ. ปยุตฺโต)
๒. หน้า ๗-๑๒ คัดจาก “โอวาทวันมงคลสมรส” ในหนังสือเล่มเดียวกับข้อ ๑.
๓. หน้า ๑๓-๖๐ เป็นธรรมกถาที่พระธรรมปิฎก (ป. อ. ปยุตฺโต) แสดงเมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๔๑ ณ วัดญาณเวศกวัน จ.นครปฐม