ขอเจริญพร โยมญาติมิตรชาวบริษัท ทุกท่าน
วันนี้ อาตมาทั้งสามรูปได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยียนที่บริษัท ทั้งในส่วนของไร่ที่ปลูกสับปะรด และทั้งในส่วนของโรงงาน ทั้งนี้ก็เนื่องจากคุณโยมผู้เป็นประธานกรรมการของบริษัทได้นิมนต์มา โดยที่ท่านมีน้ำใจศรัทธาและมีเมตตาไมตรีธรรม
ความจริงนั้นก็จะได้มาตั้งนานก่อนหน้านี้แล้ว โยมโสภณได้นัดไว้คงจะสักหนึ่งเดือนมาแล้วกระมัง แต่พอดีเกิดเหตุขัดข้องเกี่ยวกับเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยเล็กน้อย ก็เลยเลื่อนมา จนลงตัวในตอนนี้ ทำให้ได้มีโอกาสมาดูกิจการของบริษัท แล้วก็ได้เห็นทั้งในส่วนของวัตถุดิบที่จะนำมาป้อนโรงงานและทั้งกระบวนการผลิต แม้ว่าจะมีเวลาดูสั้นๆ แต่ก็ได้เห็นกิจการโดยทั่วๆ ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ที่มานี้ก็ไม่ใช่เป็นการมาดูกิจการเป็นเรื่องเป็นราว แต่เรียกได้ว่าเป็นการมาพักผ่อน คือเป็นการได้เปลี่ยนบรรยากาศไปด้วย การมาที่นี่นั้นส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของธรรมชาติ คือที่ไร่สับปะรด ได้ไปดูรอบทีเดียว โยมโสภณพร้อมทั้งทางไร่นั้นคือคุณชาญวิทย์ และคุณกีรนันท์ ก็ได้พาไปดูจนกระทั่งเรียกว่ารอบบริเวณ แต่เวลาจำกัดไปหน่อย เกรงว่าเดี๋ยวจะมาไม่ทันดูที่นี่ ก็เลยดูผ่านๆ บางจุดก็ไม่สามารถเข้าไปถึงได้ เกรงว่าเวลาจะเนิ่นนาน ก็เลยต้องเดินทางต่อมาที่นี่ซึ่งเป็นส่วนของโรงงาน เพื่อมาฉันเพลตามนิมนต์
เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ก็ได้รับการต้อนรับโอภาปราศรัยจากท่านกรรมการอำนวยการพร้อมทั้งพนักงานท่านอื่นๆ เป็นที่น่าอนุโมทนา เป็นบรรยากาศของไมตรีจิตมิตรภาพในหมู่ของผู้ที่อยู่ในที่นี้เอง พร้อมทั้งท่านที่มาเยี่ยมเยียนซึ่งพอดีประจวบกัน คือนอกจากคณะอาตมาแล้วคณะท่านนายอำเภอ พร้อมทั้งท่านปลัดก็ได้มาเยี่ยมเยียนบริษัทด้วย เมื่อถึงเวลาโยมก็ได้นิมนต์ฉัน ฉันเสร็จแล้วก็บอกว่านิมนต์แสดงธรรมด้วย
การแสดงธรรมนี้ถือเป็นรายการที่เรียกว่าแถมหรือเป็นส่วนพิเศษขึ้นไป เป็นการคุยกันแบบสบายๆ มากกว่า คืออย่าให้ถือเป็นเรื่องหนักอะไรเลย พอบอกว่าให้มาฟังพระแสดงธรรม เดี๋ยวจะนึกว่าเป็นเรื่องที่ยาก เป็นเรื่องของศัพท์วัด แล้วก็เลยอยากจะง่วง เพราะฉะนั้น ก็ขอให้ถืออย่างที่ว่า เป็นการได้มาเยี่ยมเยียนกัน เมื่อมีการเยี่ยมเยียนกันแล้วก็มาพูดคุยสนทนาปราศรัยกัน ก็เป็นทำนองนี้ และเมื่อจะเยี่ยมเยียนชนิดที่ได้มีโอกาสพบกันมากท่าน ก็ต้องมาอยู่ในที่ประชุมเช่นนี้ เพราะมาเยี่ยมประเดี๋ยวเดียวถ้าไม่จัดประชุมก็ได้พบกันไม่กี่คน การที่คุณโยมจัดให้แสดงธรรมอย่างนี้ก็เท่ากับว่าทำให้มีโอกาสได้พบกับหลายๆ ท่านนั่นเอง อันนี้ก็เป็นวิธีการอย่างหนึ่ง
ทีนี้ เมื่อมาพบกันแล้ว ก็ได้คุยสนทนาปราศรัย ในฐานะที่เป็นพระจะคุยเรื่องอะไรดี ก็คุยเรื่องธรรมให้ฟัง
สำหรับสถานที่นี้เป็นที่ทำงาน เป็นโรงงาน เมื่อเป็นโรงงานแล้วจะคุยเรื่องอะไรดี ก็น่าจะคุยกันเรื่องงาน แต่มองในแง่หนึ่ง คนที่ทำงานอยู่แล้วนี่ บางทีก็ไม่ค่อยอยากให้พูดถึงเรื่องงาน คือตัวเองทำงานอยู่ก็หนักพอแล้ว พอมีคนมาเยี่ยมก็มาพูดเรื่องงานอีก แทนที่จะเอาเรื่องสนุกๆ มาคุยกันให้สบายใจ เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ กลับมาคุยกันเรื่องงานเลยยิ่งแย่ใหญ่ แต่อาตมาก็นึกว่า ในแง่หนึ่งถ้าหากว่าเราพูดเรื่องงานนี่แหละ แต่พูดให้ถูกแง่มันก็ดี แล้วก็จะเป็นประโยชน์แก่ชีวิตระยะยาวด้วย
บางทีการพูดเรื่องอื่นสลับเข้ามาก็อาจจะสนุกสนาน เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศเฉพาะชั่วครู่ชั่วยามแล้วก็ผ่านไป แต่แล้วเราก็ต้องกลับมาทำงานของเราอีก ก็ต้องหนักต่อไปตามเดิม