สังคมไทยเป็นสังคมที่อุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มีชีวิตที่สุขสบายมาโดยตลอด ไม่เคยต้องสู้สิ่งยาก ต่อมาฝรั่งมีเทคโนโลยีมาให้บริโภค (เทคโนโลยีแบ่งเป็น ๒ ชนิด คือ เทคโนโลยีเพื่อการผลิต และเทคโนโลยีเพื่อการบริโภค) เทคโนโลยีบริโภคนั้นเข้ามาเสริมความสะดวกสบายบำรุงบำเรอความสุขเพิ่มขึ้น สังคมไทยจึงรับเทคโนโลยีเข้ามาโดยไม่ได้รับวัฒนธรรมพื้นฐานของเขามาด้วย คือไม่มีวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมอุตสาหกรรม เราจึงเสียเปรียบในเรื่องพื้นฐานทางจิตใจและนิสัยใจคอ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่เราต้องรู้และยอมรับและจะต้องพัฒนาคนของเราให้ตรงกับจุดอ่อนนั้น
ความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และไสยศาสตร์ ด้วยการอ้อนวอนขอผลแบบลาภลอย โดยที่ตัวเองไม่ต้องใช้ความเพียรนั้น เป็นระบบที่เรียกว่า ถ่ายโอนภาระรับผิดชอบให้แก่สิ่งอื่น (ให้แก่สิ่งศักดิ์สิทธิ์และไสยศาสตร์)
ในที่นี้ได้พูดถึงองค์ประกอบที่ทำให้สังคมไทยอ่อนแอ ๓ อย่าง คือ
๑) สภาพภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมไทยที่สมบูรณ์และสบายมาแต่ก่อนเก่า
๒) เทคโนโลยีบริโภคสำเร็จรูปที่ตัวเองไม่ได้สร้างสรรค์มาเอง ซึ่งพรากออกไปจากวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมอุตสาหกรรม
๓) ความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบถ่ายโอนภาระรับผิดชอบให้แก่สิ่งอื่น และการหวังพึ่งความช่วยเหลือของอำนาจดลบันดาลจากภายนอก
คนไทยมีวัฒนธรรมที่อ่อนมากจากสภาพเหล่านี้ ซึ่งเราต้องยอมรับ ฉะนั้นการที่จะสร้างสรรค์สังคมไทยให้พัฒนา จึงต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งจะต้องทำให้ได้ สังคมไม่ว่าสมัยใดถ้าจะเดินไปข้างหน้า จะต้องมีความชัดเจนว่าจะดำเนินไปอย่างไร
สังคมไทยจะต้องเน้นการพัฒนาคนให้มีความใฝ่รู้ และสู้สิ่งยากให้ได้ มิฉะนั้นคนไทยจะอ่อนแอ เปราะบาง ขณะนี้สังคมฝรั่งกำลังประสบปัญหานี้แล้ว ทั้งๆ ที่เขามีวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมอุตสาหกรรมอย่างหนักแน่นมาก่อน แต่เมื่อเขาพัฒนาถึงจุดที่กลายเป็นสังคมบริโภค ฝรั่งก็เริ่มประสบปัญหา ดังที่ปรากฏว่า คนรุ่นใหม่ของเขาขาด work ethic (จริยธรรมในการทำงาน) มีหนังสือออกมาหลายเล่มบอกว่า คนอเมริกันปัจจุบันขาด work ethic มีหนังสือออกมาโอดครวญกันมากว่า เดี๋ยวนี้สังคมอเมริกันแพ้ญี่ปุ่นและเยอรมันในเวทีการแข่งขันของโลก หนังสือที่มีชื่อทำนองนี้ว่า The End of the American Century มีผู้เขียนออกมามาก