จะอยู่อย่างเป็นเหยื่อ หรือขึ้นเหนือไปนำเขา
...ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญก็คือ คนที่แข่งขันก็เพื่อหาผลประโยชน์ ผลประโยชน์จะเกิดขึ้นได้ก็คือการไปเอาจากทรัพยาการทางธรรมชาติ อันนั้นเป็นธรรมดา เพราะมนุษย์จะมีสิ่งสำหรับมาเสพมาบริโภคที่เรียกว่าผลประโยชน์นั้น ก็ต้องไปเอาจากธรรมชาติ เมื่อแข่งขันมากก็ไปด้วยกันกับการบริโภคมาก เมื่อต้องบริโภคมากก็เอาจากธรรมชาติมาก ธรรมชาติก็ยิ่งเสื่อมโทรม เพราะ ๑. ทรัพยากรก็ร่อยหรอ ๒. มีการระบายของเสียมาก เมื่อผลิตมากก็ต้องระบายมลภาวะมาก บริโภคมากก็เกิดขยะมาก ฉะนั้นธรรมชาติแวดล้อมก็เสีย...
...แต่ในขณะนี้รอไม่ได้ เรื่องเฉพาะหน้าก็คือว่า ผลประโยชน์ของตัวและสิ่งที่ได้มากับผลประโยชน์คือ อำนาจความยิ่งใหญ่ สองอย่างนี้ต้องมาด้วยกัน ทรัพย์กับอำนาจ เมื่อต้องการทรัพย์ ต้องการผลประโยชน์ ก็ต้องมีอำนาจ เพื่อที่จะไปเอาให้ได้มาก ครอบงำคนอื่นได้ เปิดช่องทางที่จะไปเอาความยิ่งใหญ่ นี้อยู่ได้ก็ด้วยผลประโยชน์อีก ก็ต้องมีทรัพย์จึงจะรักษาอำนาจไว้ได้ อำนาจก็ไปเสริมทรัพย์ เสริมซึ่งกันและกัน จะทำอย่างไรล่ะ ถ้าตัวไปเอาผลประโยชน์มาก ธรรมชาติแวดล้อมก็เสีย ถ้าตัวไม่ยอมหาผลประโยชน์ อำนาจตัวก็จะลดลง ความยิ่งใหญ่ก็จะเสียไป อยู่ในเวทีโลกก็อยู่ในระบบแข่งขัน ก็ต้องเอาชนะคนอื่น เมื่อเอาชนะคนอื่นก็ต้องหาผลประโยชน์ให้มาก ธรรมชาติแวดล้อมก็เสีย กลืนไม่เข้าคลายไม่ออกว่าจะเอาอย่างไร แต่เฉพาะหน้าต้องเอาไว้ก่อน สิ่งที่ค้ำคออยู่คือว่า ผลประโยชน์และอำนาจต้องเอาไว้ก่อน ธรรมชาติจะเสียก็ต้องยอม ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น มองข้ามไปเสีย...
ที่มา | จาก การสนทนาธรรม แก่ กอง บก. ร่มโพธิ์แก้ว ณ สถานพำนักสงฆ์สายใจธรรม เขาสำโรงดงยาง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา |
---|